xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอย “อนุดิษฐ์”ล่ามือแฮก อยากได้หน้าจนทำเกินอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปฏิกริยารวดเร็วมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งยวดของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เด็กในคาถาของ "ตุ๊กตาทองสองหน้า" สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ดูจะทำให้สังคมไทยตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย

เนื่องจากใช้เวลาเพียงสามวันก็รวบตัวมือแฮกทวิตเตอร์ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนผู้คนเขากลัวว่า นักศึกษาที่ถูกจับจะพูดภาษาคนไม่ได้นอกจากสื่อสารแบบแพะ !

แต่ รมว.ไอซีที อดีตนายทหารอากาศก็ยืนยันหนักแน่นว่าจับตัวจริงไม่มีแพะ สิ่งที่น่าแกะรอยจากเรื่องนี้ คือ นักศึกษาคนดังกล่าวเป็นมือแฮกเกอร์ระดับพระกาฬที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีเทคโนโลยีชั้นสูงในการเจาะรหัส นายกฯปู จริงหรือไม่

ทำไมรมว.ไอซีทีจึงรวบรัดตัดความแถลงข่าวเองเสียคนเดียว แย่งซีนตำรวจสอบสวนกลางในฐานะจ้าพนักงานที่มีอำนาจในการจับกุมตามกฎหมาย โดยไม่ปล่อยให้คนมีหน้าที่ได้อธิบายรายละเอียดของคดี และไม่ยอมให้นักศึกษาเปิดปากชี้แจงการกระทำของตัวเอง

ทำไม อนุดิษฐ์ จึงดูร้อนรนรวบรัดนักในการแถลงข่าวครั้งนี้ ทั้ง ๆ ที่หากคิดในมุมของลิ่วล้อในระบอบทักษิณแล้ว เรื่องนี้ต้องถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่นำบิลเบิกได้ ชนิดเรียกว่าได้ทั้งหน้า ได้ทั้งกล่อง

คนวงในเขากระซิบให้ฟังว่า ที่ อนุดิษฐ์ดูผิดฟอร์ม “ดีแต่โม้” เพราะความมั่นใจถดถอย ตั้งแต่เรียกชื่อโปรแกรมล้วงข้อมูลผิด จาก “สนิฟเฟอร์” เป็น “สลิป” แถมให้ข้อมูลมั่วต่อสาธารณะว่ ามือแฮกใช้ไอโฟนปฏิบัติการล้วงคองูเห่า

ทั้ง ๆ ที่ ข้อมูลจากไอซีทีที่ทำให้สาวไปถึงตัวนักศึกษารายนี้ชี้ชัดว่าไอพีที่ปรากฏนั้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีในบ้านพักย่านเพชรบุรี 15 แถวประตูน้ำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไอโฟนเลยแม้แต่น้อย ขณะที่คนให้ข้อมูลมั่วต่อสาธารณะที่มีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีกลับไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ใช้วิธีการไม่พูดถึงซะงั้น

ถัดมาอีกวันหนึ่ง อนุดิษฐ์ ไปไกลถึงขั้นว่า มือเจาะรหัสข้อมูล เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นคนละคนกับผู้โพสต์ข้อความ แต่เมื่อนำตัวนักศึกษามาแถลงข่าวกลับบอกหน้าตาเฉยว่า มีผู้กระทำความผิดเพียงรายเดียว

การให้ข้อมูลมั่วตั้งแต่ต้น ทำให้น่าสงสัยว่าข้อมูลส่วนต่อขยายที่ตามมาในภายหลัง มั่วโดยสุจริตด้วยหรือไม่

เริ่มตั้งแต่กรณีที่อ้างว่า นายเอกวิทย์ ทองดีวรกุล สำนึกผิดเข้ามอบตัวเองนั้น ตำรวจสอบสวนกลางเขายังงงไม่หาย เพราะไม่ได้มีส่วนรับรู้เรื่องนี้เลย จนกระทั่งถูกลากตัวให้ไปร่วมแถลงข่าวนั่นแหละ !

คำถาม คือ แล้วนายเอกวิทย์แจ้งขอมอบตัวกับใครไม่ทราบ ในเมื่อเจ้าพนักงานสอบสวนซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายเขาไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเรื่องนี้ รมว.ไอซีทีอาศัยความเป็นทหารอากาศเก่าใช้บริการทีมทัพฟ้าเฉพาะกิจไปรวบตัว เอกวิทย์ ถึงสงขลา จนเขาแตกตื่นกันทั้งจังหวัด

จริงเท็จประการใด อนุดิษฐ์ ต้องชี้แจง

เพราะหากดำเนินการดังว่าจริง ก็เท่ากับ รมว.ไอซีทีใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต ทำผิดกฎหมาย เนื่องจากผู้มีหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนคือ ตำรวจ ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร อีกทั้งกรณีนี้ไม่ใช่การกระทำผิดซึ่งหน้า และยังไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีจากผู้เสียหาย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะมีข้อมูลไม่ตรงกันคือ อนุดิษฐ์ อ้างว่า นายกฯยิ่งลักษณ์มอบหมายให้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่ พานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คว่า น้าปูไม่ติดใจเอาผิด

เมื่อเรื่องนี้ยังไม่เป็นคดีความการจับกุมตัว จึงถือเป็นการทำที่เกินเลยไปกว่าที่กฎหมายให้อำนาจ อีกทั้งไม่มีการระบุชัดว่า มีการแจ้งนักศึกษารายนี้กระทำความผิดในข้อหาอะไร จะมีการยัดเยียดข้อหาที่เกินเลยจากความจริงหรือไม่

เพราะก่อนหน้านี้มีการระบุโทษการล้วงข้อมูลผ่านโลกออนไลน์มีโทษจำคุก 5 ปี นายเอกวิทย์ ยังเป็นนักศึกษามีอนาคตอีกไกล แต่ชีวิตที่ควรรุ่งโรจน์ของเขาอาจดับวูบจากการแสดงความเห็นทางการเมืองที่เสียดแทงใจรัฐบาล ดังนั้นหากมีการลุแก่อำนาจดำเนินคดีตามอำเภอใจ โดยไม่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสาธารณะทั้งที่เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ

จากการให้ปากคำของ นายเอกวิทย์ ที่ไม่มีการเปิดเผยนั้น ยืนยันว่าเขาไม่ได้ใช้เทคโนโลยีหรือความเชี่ยวชาญพิเศษใด ๆ เพื่อเข้าไปโพสต์ในทวิตเตอร์ของนายกฯยิ่งลักษณ์แม้แต่น้อย เพราะอีเมล์แอดเดรสของนายกรัฐมนตรี และรหัสถูกนำไปโพสต์ในหลายเวปไซด์ เขาเพียงแต่นำมาเข้าระบบและโพสต์ข้อความลงไปเท่านั้น ไม่ใช่ผู้เจาะรหัสแต่อย่างใดทั้งสิ้น

อย่างนี้จะเรียกว่า นายเอกวิทย์ เป็นมือแฮกระดับพระกาฬ ที่ควรถูกดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาดหรือไม่ วิญญูชนย่อมมีคำตอบว่า ไม่ใช่ อีกทั้งหาก นายเอกวิทย์ เป็นมืออาชีพมีเจตนากระทำผิดกฎหมายคงไม่ทิ้งร่องรอยให้ถูกจับได้ ด้วยการใช้เครื่องพีซีที่บ้าน เพราะแค่ใช้คอมพิวเตอร์จากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ก็จับมือใครดมไม่ได้แล้ว

“ประเทศนี้เป็นธุรกิจ เราทำเพื่อพวกพ้อง ไม่ได้ทำเพื่อคนไทย เราทำเพื่อคนที่สนับสนุนเรา ไม่ใช่คนที่เห็นต่างจากเรา โอกาสของคนจนอยู่ที่ไหน เราหลอกใช้คนจน ให้ความหวังพวกเขา เพื่อคะแนนเสียง ที่จะให้กลุ่มก้อนของเราเข้ามาหาผลประโยชน์ ความยั่งยืนอยู่ที่ไหน การแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่แค่การสร้างภาพเฉพาะหน้า แต่เป็นการรวมพลังของบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจมาแก้ไขอย่างยั่งยืน ถึงเวลารึยังที่ประเทศเราจะเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดี ไม่ใช่แค่สร้างภาพเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทของตน ญาติพี่น้อง กลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์

ประเทศนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษา ทำไมถึงเขียนนโยบายแจก tablet ไม่ใช่การแก้ที่ตัวหลักสูตรหรือ สนับสนุนคุณครูให้มีรายได้มากขึ้นหรือ ทำไมถึงคิดอภิมหาโครงการ อย่างถมทะเล สร้างตึกสูงที่สุดในโลก คือไม่มีความเข้าใจอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับประเทศนี้ ประเทศไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง ถึงเวลาที่ทุกคนในประเทศตื่นตัวได้แล้ว ความโง่เขลาจักต้องหมดสิ้นไป แม้กระทั่ง twitter ตนเองยังปกป้องไว้ไม่ได้ แล้วประเทศนี้จะปกป้องได้อย่างไร? ฝากให้พี่น้องคิดดูนะครับ”

นี่คือเนื้อหาที่มีการโพสต์ผ่านทวิตเตอร์นายกฯยิ่งลักษณ์ จะเห็นได้ว่าไม่มีลักษณะคุกคามข่มขู่ หรือด่าทอจนเข่าข่ายหมิ่นประมาท แต่นายเอกวิทย์ วิจารณ์นโยบายรัฐบาลในฐานะประชาชนที่ต้องการสะท้อนเสียงของตัวเองให้ดังไปถึงคนเป็นผู้นำประเทศเท่านั้น

หรือว่ารัฐบาลชุดนี้ที่อ้างตลอดเวลาว่ามาจากประชาชน ไม่พร้อมที่จะรับฟังเสียงสวรรค์ของชาวบ้าน เลือกรับฟังเสียงจากนรกทำลายหลักนิติรัฐของกลุ่มนิติแดงเพื่อนักโทษบางคนเท่านั้น

ที่สำคัญคือ จากการตรวจสอบข้อมูลของไอซีทีพบว่า อีเมล์แอดเดรสในจีเมล์ของนายกรัฐมนตรีถูกแฮ๊กครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเกิดก่อนที่ นายเอกวิทย์ จะโพสต์ในทวิตเตอร์จนดังสนั่นเมือง แสดงว่ารหัสข้อมูลของนายกรัฐมนตรีมิได้เป็นความลับเสียแล้ว สอดรับกับที่นายเอกวิทย์ระบุว่า ได้รหัสมาจากที่อื่นและตรงกับที่ อนุดิษฐ์ พูดก่อนหน้านี้ว่า คนแฮ๊กกับคนโพสต์เป็นคนละคนกัน

แล้วทำไม อนุดิษฐ์ ปกปิดข้อมูลนี้ หรือ ต้องการตัดตอนจบเรื่องให้เร็ว กระทำการมักง่ายยัดเยียดความผิดทั้งหมดให้ นายเอกวิทย์ รับไว้คนเดียว มีการข่มขู่ให้นายเอกวิทย์ต้องยอมจำนนหรือไม่ หรือว่าท่านตรวจสอบรู้แล้วว่าคนแฮกข้อมูลเป็นใคร แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะบังเอิญว่าไปเจอเอาคนกันเองเข้า ก็เลยไม่กล้าให้สาธารณะเขารับรู้ถึวความแตกแยกภายในที่เกิดขึ้น

อนุดิษฐ์ และ ตำรวจ ต้องทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เปิดเผยโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับ นายเอกวิทย์ด้วย

สิ่งที่ อนุดิษฐ์ พึงต้องให้คำตอบกับสังคมอีกประเด็นหนึ่ง คือ กำลังใช้หน้าที่รัฐมนตรีรับใช้คนตระกูลชินวัตรมากกว่าการรับใช้ประเทศชาติและประชาชนใช่หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น