เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ต้องเรียกว่า น่าเห็นใจจริงๆ สำหรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องแบกหน้ามารับภาระเข้ามารักษาผลประโยชน์แทน “พี่ชาย” คือ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ถนัดและไม่มีความพร้อมเลยสักนิด และยอมรับว่าบทบาทในฐานะผู้นำประเทศของเธอในรอบกว่าหนึ่งเดือนไม่เห็นแนวโน้มพอ “พึ่งหวัง” ได้เลย เพราะเก้ๆกังๆ ไม่ได้มีไอเดียสร้างสรรค์ที่โดดเด่นแต่อย่างใด เท่าที่เห็นมีแต่กร “ปั้นยิ้ม” ใช้ความเป็นผู้หญิงเท่านั้นที่พยายามแสดงออกมาเป็นจุดขาย
00 อย่างไรก็ดีในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ต้องแช่น้ำอยู่นานนับเดือนคงไม่มีอารมณ์ที่จะมาเชยชมความสวยความงามของ “นารี” แต่เพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการนั่นคือความหวัง การแก้ปัญหามากกว่า แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไร “พิเศษ” แถมที่ผ่านมายัง “ปล่อยไก่” ออกมาให้เห็นจน “ฮากันไม่ออก” เป็นระยะเสียอีก
00 เหมือนผีซ้ำกรรมซัดเมื่อถูกมือดีเข้ามา “แฮกเกอร์” เจาะข้อมูล สวมรอย “ทวิตเตอร์” โพสต์ข้อความโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯปูและพรรคเพื่อไทย ชนิดที่เรียกว่าพูดได้ “ตรงใจ” ชาวบ้านเสียจริงๆ เป็นการ “ตีแสกหน้า” เข้าไปตรงๆ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่คนในรัฐบาลจะร้อง “กรี๊ด” เพราะมันยิ่งกว่าหยาม งานนี้คนที่นั่งไม่เป็นสุขเห็นจะเป็น น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ในฐานะ รมว.ไอซีที ที่ต้องโชว์ฝีมือโดยเร็ว
00 จากการรายงานผลสำรวจประจำสัปดาห์ของสำนักต่างๆล่าสุด ทำให้พบว่าเวลานี้ความรู้สึกของชาวบ้านเห็นว่า ราคาข้าวของไม่ได้ “ถูกกระชาก” ลงมาแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับพุ่งขึ้นแบบกระฉูด แม้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีปัญหาน้ำท่วมยืดเยื้อยาวนาน ประกอบกับในช่วงเทศกาลกินเจ ของต้องแพงขึ้นเป็นธรรมดา
00 แต่อีกด้านหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ก็คือเป็นผลมาจากสารพัดนโยบาย “ประชานิยม” ที่ออกมา ไม่ว่าค่าแรง 300 บาท เงินเดือน 15,000 บาท รวมไปถึงจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ที่จะเริ่มดีเดย์ในวันที่ 7 ต.ค.และ รมว.พาณิชย์ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ถึงกับเดิมพันอนาคตกันเลยทีเดียว แต่เวลานี้ ค่าครองชีพปรับขึ้นไปรออยู่ข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาข้าวถุงชนิด 5 ก.ก.ได้ปรับขึ้นไปถุงละ 5 -10 บาท และยังมีการประกาศไว้ล่วงหน้าอีกว่าภายในเดือนสองเดือนนี้จะปรับขึ้นอีก 30-40 เปอร์เซ็นต์ โอ “พระเจ้าทักษิณ” ช่วย “หญ้าแพรก” ด้วยเถิด พลีสส !!
00 สำหรับ “เสี่ยเติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา “ขาใหญ่เมืองขุนแผน” ต้องตกเป็น “จำเลย”ของ พวก ส.ส.พรรคเพื่อไทย อย่างพวก สุชาติ ลายน้ำเงิน จากลพบุรี และ พายัพ ปั้นเกตุ จากสิงห์บุรี เรื่องกักน้ำไม่ให้ท่วมเมืองสุพรรณฯ งานนี้จริงเท็จไม่รู้ รู้แต่ว่า ฝ่ายแรกเสียหายถูกชาวบ้านหลายจังหวัดรอบบ้านรุมจ้องเป็นตาเดียว แต่อีกด้านหนึ่งนี่คือการเมืองที่ “อำมหิต” ที่ “ฉวยโอกาส” ใช้ความเดือดร้อนของชาวบ้านมาทำลายคนอื่น แม้ว่ามองพฤติกรรมในอดีตทั้งสองฝ่ายจะ “พอกัน” ก็ตาม !!