อุตส่าห์เตรียมการมาอย่างดี ก็ยังพลาดอีกจนได้
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการจัดรายการวิทยุ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ที่ใช้ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เป็นห้องส่งดำเนินรายการกันไปเป็นครั้งแรกเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
แม้ยิ่งลักษณ์จะทั้งพูดตามสคริปต์และซักซ้อมกันมาก่อนโดยมีทีมงานรอบตัวคอยช่วยควบคุมให้อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังพลาดกับการพูดผิดเรื่องที่รัฐบาลจะดำเนินการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริการปลูก “หญ้าแฝก” แต่ยิ่งลักษณ์กลับพูดผิดเป็น “หญ้าแพรก” ผลก็คือ โดนสวดแหลกลาญ
ถือเป็นการผิดซ้ำสอง
ครั้งแรกก็หลังประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็ทำเอาลูกประดู่ เฮ เก้อ ที่ผู้นำประเทศอย่างนายกรัฐมนตรี บอกกับสื่อมวลชนหลังประชุม ครม.ว่าที่ประชุม ครม.อนุมัติการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ”ของกองทัพเรือแบบฉลุย
ก่อนที่ทีมโฆษกรัฐบาลต้องแถแก้ตัวแทนนายว่า นายกฯ หมายถึง “เรือดันน้ำ” อันเป็นมุกที่ตลกไม่ออก
เพราะใครๆ ก็รู้หากจะซื้อเรือดันน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม เรือดันน้ำไม่ได้มีราคาแพงอะไรเป็นพันล้านร้อยล้านถึงขั้นต้องเอาเข้าที่ประชุม ครม.
สรุปว่า มั่ว-บื้อ ทั้งเจ้านายและลูกน้อง
ก็ไม่รู้ว่า การพูดผิดเรื่องปลูกหญ้าแฝกเป็นหญ้าแพรก ยิ่งลักษณ์และทีมงานจะซีเรียสเหมือนกรณีเรือดันน้ำหรือไม่ แต่ดูแล้วคงไม่ค่อยเข้าไหร่เพราะยิ่งลักษณ์คงมองว่าการพูดแบบจัดรายการสดๆ อย่างนี้ไม่ค่อยมีผลอะไรมากไม่เหมือนกับการพูดผิดเรื่อง มติ ครม.ที่จริงจังซีเรียสมากกว่า
ตอนนี้มีข่าวลือมาจากทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐมนตรีและ ส.ส.เพื่อไทยบางคน ไปคุยกับทีมงานยิ่งลักษณ์ในทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่ควรปล่อยให้ยิ่งลักษณ์ปล่อยไก่บ่อยๆ จะไม่เป็นผลดี
แต่คุยกันไปมาอีท่าไหนไม่รู้ ข่าวบอก วิเคราะห์การแก้ปัญหาแล้วบอกเพื่อไม่ให้ยิ่งลักษณ์เหวออีก อาจต้องใช้วิธี ลดระเบียบวาระการประชุม ครม.ลง อย่าให้มันมากและอย่าให้มีวาระจรมาก เพราะวันที่ยิ่งลักษณ์พูดผิดเรื่องเรือดำน้ำ วันนั้นมีวาระ ครม. 37 เรื่อง
คุณหนูปูเลยมึน อ่านเอกสารเป็นตั้งๆ ออกจากห้องประชุมครม.มา เจอกองทัพสื่อตั้งป้อมถามอีก เลยปล่อยไก่ออกมาเป็นเล้า
สรุปต่อนี้ไปจะให้ อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องสกรีนวาระ ครม.ด้วย อย่าบรรจุวาระครม.มากเกินไปและรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็ควรเอาเรื่องสำคัญๆ เข้า ครม.เท่านั้น
เรื่องไหนเป็นเรื่องเชิงเทคนิคต้องถามกันมากในที่ประชุมครม. ก็ควรต้องส่งเอกสารให้นายกฯพิจารณาหรือคุยกันก่อนเข้าครม.สัก 1-2 วัน จะได้เข้าใจเรื่อง
เวลาสื่อถามจะได้ไม่ถามช้างตอบม้าแบบที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องที่สื่อสนใจเช่น งบซื้ออาวุธหรือการอนุมัติโครงการใหญ่ๆ
ที่คนในรัฐบาลพยายามจะใช้วิธีลดวาระ ครม.ไม่ให้มากเกินไปเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ไปก่อน คงเพราะรัฐมนตรีบางคนมองว่า คุณหนูปู ยังมือใหม่ เจอวาระ ครม.เข้าไป 30-40 เรื่องทำให้ตาลาย เอาไว้ให้มีประสบการณ์มากกว่านี้ ค่อยว่ากัน จะวาระจร-วาระทิ้งทวนอะไร รับมือได้ แต่ตอนนี้เอาแค่พองามก่อน
เอ้า หากใช้วิธีนี้ดูว่าน่าจะดีเหมือนกัน คือทำให้การประชุม ครม.ไม่มีเรื่องเข้ามากเกินไป โดยเฉพาะพวกวาระจรสำคัญๆ ที่มักเห็นชอบกันแบบเร่งรีบ ทำให้การอนุมัติขาดความรอบคอบ
แต่ทางปฏิบัติคงทำได้ยาก เพราะรัฐบาลนี้ก็อย่างที่รู้ คนคุมคือทักษิณ ชินวัตร การชงเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ในเรื่องสำคัญๆ คนที่รู้และเห็นชอบคนแรกไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ แต่เป็นทักษิณ
ถ้าทักษิณไฟเขียว จะเอาเรื่องเข้า ครม.มากหรือน้อย ยิ่งลักษณ์ก็แค่นั่งหัวโต๊ะอนุมัติ ส่วนจะตอบคำถามสื่อได้หรือไม่ ก็หาทางเอาตัวรอดเป็นคราวๆ ไป
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการจัดรายการวิทยุ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ที่ใช้ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เป็นห้องส่งดำเนินรายการกันไปเป็นครั้งแรกเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
แม้ยิ่งลักษณ์จะทั้งพูดตามสคริปต์และซักซ้อมกันมาก่อนโดยมีทีมงานรอบตัวคอยช่วยควบคุมให้อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังพลาดกับการพูดผิดเรื่องที่รัฐบาลจะดำเนินการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริการปลูก “หญ้าแฝก” แต่ยิ่งลักษณ์กลับพูดผิดเป็น “หญ้าแพรก” ผลก็คือ โดนสวดแหลกลาญ
ถือเป็นการผิดซ้ำสอง
ครั้งแรกก็หลังประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็ทำเอาลูกประดู่ เฮ เก้อ ที่ผู้นำประเทศอย่างนายกรัฐมนตรี บอกกับสื่อมวลชนหลังประชุม ครม.ว่าที่ประชุม ครม.อนุมัติการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ”ของกองทัพเรือแบบฉลุย
ก่อนที่ทีมโฆษกรัฐบาลต้องแถแก้ตัวแทนนายว่า นายกฯ หมายถึง “เรือดันน้ำ” อันเป็นมุกที่ตลกไม่ออก
เพราะใครๆ ก็รู้หากจะซื้อเรือดันน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม เรือดันน้ำไม่ได้มีราคาแพงอะไรเป็นพันล้านร้อยล้านถึงขั้นต้องเอาเข้าที่ประชุม ครม.
สรุปว่า มั่ว-บื้อ ทั้งเจ้านายและลูกน้อง
ก็ไม่รู้ว่า การพูดผิดเรื่องปลูกหญ้าแฝกเป็นหญ้าแพรก ยิ่งลักษณ์และทีมงานจะซีเรียสเหมือนกรณีเรือดันน้ำหรือไม่ แต่ดูแล้วคงไม่ค่อยเข้าไหร่เพราะยิ่งลักษณ์คงมองว่าการพูดแบบจัดรายการสดๆ อย่างนี้ไม่ค่อยมีผลอะไรมากไม่เหมือนกับการพูดผิดเรื่อง มติ ครม.ที่จริงจังซีเรียสมากกว่า
ตอนนี้มีข่าวลือมาจากทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐมนตรีและ ส.ส.เพื่อไทยบางคน ไปคุยกับทีมงานยิ่งลักษณ์ในทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่ควรปล่อยให้ยิ่งลักษณ์ปล่อยไก่บ่อยๆ จะไม่เป็นผลดี
แต่คุยกันไปมาอีท่าไหนไม่รู้ ข่าวบอก วิเคราะห์การแก้ปัญหาแล้วบอกเพื่อไม่ให้ยิ่งลักษณ์เหวออีก อาจต้องใช้วิธี ลดระเบียบวาระการประชุม ครม.ลง อย่าให้มันมากและอย่าให้มีวาระจรมาก เพราะวันที่ยิ่งลักษณ์พูดผิดเรื่องเรือดำน้ำ วันนั้นมีวาระ ครม. 37 เรื่อง
คุณหนูปูเลยมึน อ่านเอกสารเป็นตั้งๆ ออกจากห้องประชุมครม.มา เจอกองทัพสื่อตั้งป้อมถามอีก เลยปล่อยไก่ออกมาเป็นเล้า
สรุปต่อนี้ไปจะให้ อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องสกรีนวาระ ครม.ด้วย อย่าบรรจุวาระครม.มากเกินไปและรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็ควรเอาเรื่องสำคัญๆ เข้า ครม.เท่านั้น
เรื่องไหนเป็นเรื่องเชิงเทคนิคต้องถามกันมากในที่ประชุมครม. ก็ควรต้องส่งเอกสารให้นายกฯพิจารณาหรือคุยกันก่อนเข้าครม.สัก 1-2 วัน จะได้เข้าใจเรื่อง
เวลาสื่อถามจะได้ไม่ถามช้างตอบม้าแบบที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องที่สื่อสนใจเช่น งบซื้ออาวุธหรือการอนุมัติโครงการใหญ่ๆ
ที่คนในรัฐบาลพยายามจะใช้วิธีลดวาระ ครม.ไม่ให้มากเกินไปเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ไปก่อน คงเพราะรัฐมนตรีบางคนมองว่า คุณหนูปู ยังมือใหม่ เจอวาระ ครม.เข้าไป 30-40 เรื่องทำให้ตาลาย เอาไว้ให้มีประสบการณ์มากกว่านี้ ค่อยว่ากัน จะวาระจร-วาระทิ้งทวนอะไร รับมือได้ แต่ตอนนี้เอาแค่พองามก่อน
เอ้า หากใช้วิธีนี้ดูว่าน่าจะดีเหมือนกัน คือทำให้การประชุม ครม.ไม่มีเรื่องเข้ามากเกินไป โดยเฉพาะพวกวาระจรสำคัญๆ ที่มักเห็นชอบกันแบบเร่งรีบ ทำให้การอนุมัติขาดความรอบคอบ
แต่ทางปฏิบัติคงทำได้ยาก เพราะรัฐบาลนี้ก็อย่างที่รู้ คนคุมคือทักษิณ ชินวัตร การชงเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ในเรื่องสำคัญๆ คนที่รู้และเห็นชอบคนแรกไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ แต่เป็นทักษิณ
ถ้าทักษิณไฟเขียว จะเอาเรื่องเข้า ครม.มากหรือน้อย ยิ่งลักษณ์ก็แค่นั่งหัวโต๊ะอนุมัติ ส่วนจะตอบคำถามสื่อได้หรือไม่ ก็หาทางเอาตัวรอดเป็นคราวๆ ไป