โอน “วีระ-ราตรี” มารับโทษในไทยได้ต้องติดคุกก่อน 1 ใน 3

โฆษกรัฐบาลรับไทย-เขมรหารือโอนตัว “วีระ-ราตรี” มารับโทษในประเทศไทยตามสนธิสัญญาโอนนักโทษคดีอาญา ปี 2552 แต่ต้องติดคุกแล้ว 1 ใน 3 ของโทษทั้งหมด

นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวพนมเปญโพสต์ของประเทศกัมพูชาอ้างว่า นางฐิติมาระบุว่าการแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างพนมเปญและกรุงเทพฯ อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพื่อต้องการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ว่ารัฐบาลต้องการเร่งช่วยเหลือนายวีระ และ น.ส.ราตรี ให้กลับประเทศไทยโดยเร็วอยู่แล้ว โดยเมื่อครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา ได้มีการพูดคุยถึงการขอพระราชทานอภัยโทษ แต่จากนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ไปเยือนกัมพูชาก็มีการพูดถึงแนวคิดการโอนตัวนักโทษให้กลับมารับโทษในไทย แต่ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ

ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชามีสนธิสัญญาโอนนักโทษคดีอาญา ซึ่งต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด หรือคดีเด็ดขาดแล้ว ปี 2552 จึงเป็นที่มาของการจะให้มีการโอนตัวนายวีระ และ น.ส.ราตรีกลับมาจำคุกในไทย แต่มีเงื่อนไขการโอนว่า นักโทษต้องถูกจำคุกแล้ว 1 ใน 3 ของจำนวนโทษทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ว่ากัมพูชาจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา อาจจะพิจารณาใช้โอกาสสำคัญของกัมพูชาในการลดโทษแก่คนทั้งสองเพื่อให้เข้าสู่หลักเกณฑ์การโอนตัว