xs
xsm
sm
md
lg

“ประชา” แกล้งไม่รู้ “วีระ-ราตรี” ต้องโทษคดีอะไร?

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม
รมว.ยุติธรรมเผยประเทศไทยไม่มีสนธิสัญญาแลกตัวนักโทษกับประเทศกัมพูชา แต่มีสนธิสัญญาเรื่องโอนนักโทษ โดยในเดือน ต.ค.นี้กำลังพิจารณาโอนนักโทษที่เข้าหลักเกณฑ์ให้กัมพูชา 5 ราย ส่วนกรณีของ “วีระ-ราตรี” ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เหลือเชื่อ รมว.ยุติธรรมไม่รู้ “วีระ-ราตรี” ต้องโทษคดีอะไร



วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการแลกเปลี่ยนนักโทษตามที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศกัมพูชาว่า ประเทศไทยไม่มีสนธิสัญญาแลกเปลี่ยนนักโทษกับประเทศกัมพูชา แต่มีสนธิสัญญาเรื่องการโอนนักโทษในคดีเด็ดขาดระหว่างกัน คือ นักโทษกัมพูชาที่ต้องโทษในประเทศไทยก็สามารถโอนไปรับโทษที่ประเทศกัมพูชาได้ ส่วนนักโทษไทยที่ต้องโทษอยู่ในประเทศกัมพูชาก็มีสิทธิรับโอนมารับโทษที่ประเทศไทย ซึ่งข้อตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชามีผลบังคับใช้เมื่อปี พ.ศ. 2552 ซึ่งสนธิสัญญาที่มีอยู่นี้จะต้องเห็นชอบร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ จึงจะมีการโอนนักโทษกัน ทั้งนี้ในอดีตยังไม่มีการขอโอนนักโทษไทยที่ต้องโทษอยู่ในประเทศกัมพูชา เพื่อกลับมารับโทษในประเทศไทย แต่มีนักโทษกัมพูชาที่ต้องโทษในประเทศไทยขอโอนไปรับโทษที่กัมพูชาจำนวน 2 ราย และขณะนี้ทางกัมพูชาได้ขอโอนนักโทษของกัมพูชาที่ติดคุกอยู่ในประเทศไทย ในคดียาเสพติดและคดีอาวุธปืนอีกจำนวน 5 ราย ซึ่งทั้ง 5 รายเข้าหลักเกณฑ์แล้ว แต่คณะกรรมการยังไม่พิจารณา คาดว่าจะพิจารณาในเดือน ต.ค.นี้

เมื่อถามว่ากรณีของ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ติดคุกอยู่ในกัมพูชาจะสามารถขอโอนตัวมารับโทษยังประเทศไทยได้หรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า กรณีของนาย วีระ และ น.ส.ราตรี นั้นมีขั้นตอน คือ 1.ต้องยื่นเอกสารขอโอนตัวมารับโทษที่ประเทศไทย 2.ต้องผ่านช่องทางกระทรวงต่างประเทศ โดยต้องยื่นเรื่องต่อสถานทูตไทยที่กัมพูชา จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศก็ยื่นเรื่องมายังกระทรวงยุติธรรม แต่ขณะนี้นายวีระ และ น.ส.ราตรียังไม่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในสนธิสัญญาได้กำหนดไว้ว่าการที่จะโอนตัวนักโทษนั้น นักโทษจะต้องไม่กระทำความผิดในคดีความมั่นคงภายในหรือภายนอกของรัฐ ซึ่งตนยังไม่ทราบว่านายวีระ และ น.ส.ราตรีต้องโทษในคดีอะไร เรื่องนี้ต้องไปสอบถามกระทรวงการต่างประเทศเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น