“สุรพงษ์” ปั่นข่าว “วีระ-ราตรี” ไม่เข้าข่ายโอนตัวนักโทษ แย้มเล็งรับลูก “ฮุนเซน” เดินเกมลดโทษก่อนขอพระราชทานอภัยโทษ ด้านแหล่งข่าวบัวแก้วเผย นโยบาย รบ.มีส่วนช่วยทั้งสองได้กลับบ้าน แต่ต้องใช้ช่องทางพิเศษลักษณะต่างตอบแทน
วันที่ 27 ก.ย. 54 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงยุติธรรมระบุว่ากรณีนายวีนะ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกคุมขังในเรือนจำเปรยซอร์ไม่เข้าข่ายโอนตัวนักโทษว่า ตามที่ตนเข้าใจระหว่างการหารือของนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่าน กรณีนี้จะใช้วิธีที่สมเด็จฯ ฮุนเซนพูดว่าจะลดโทษลงก่อนจนเหลือน้อยเท่าที่จะน้อยได้ เพื่อให้มีสัดส่วนการรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด จากนั้นก็จะยื่นเรื่องเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ระหว่างการเดินทางมายูเอ็นจีเอ รัฐมนตรีต่างประเทศแทบทุกคนที่ตนได้เจอมักจะมีคำถามแรกๆ คือ เรื่องความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเป็นอย่างไรบ้าง จนตนต้องอธิบายรอบแล้วรอบเล่า ทุกคนยินดีสองประเทศฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน ให้กลับมาจะได้เดินหน้าเรื่องการรวมตัวเพื่อเป็นประชาคมอาเซียนในอีก 4 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้นแหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า การดำเนินการขอโอนตัวนายวีระกับ น.ส.ราตรี ในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย บุกรุกเขตทหาร และจารกรรมข้อมูล เพื่อเป็นภัยต่อปีความมั่นคง จะสามารถทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการยื่นเรื่องร้องขอตัวนายวีระ และน.ส.ราตรี ตามสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษไปยังกัมพูชา ในลักษณะต่างตอบแทน ที่เรียกกันว่า ช่องทางพิเศษ โดยมีกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้วใน ปี 2552 ตามที่ทางการกัมพูชาได้พิจารณาให้มีการโอนตัว 2 นักโทษ คือ นายมูฮัมหมัดยาลาลุดดิน มะมิง และ นายอับดุลอาซิ หะยีเจ๊ะมิง สองอุสตาซ (ครูสอนศาสนา) จาก จ.ยะลา ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้ายในประเทศกัมพูชา และถูกศาลกัมพูชาพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ถือเป็นฐานความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศเช่นกัน โดยทั้งสองได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเขมรแล้วหลังถูกจองจำนานถึง 6 ปี ตามข้อตกลงโอนตัวนักโทษระหว่างไทยกับกัมพูชา
ทั้งนี้ การโอนตัวนักโทษในช่องทางพิเศษนี้ไม่มีกฎใดตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่ประเทศผู้ร้องขอจะเรียกตอบแทนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโอนตัวนักโทษใช้เวลาพอสมควร แต่ดูจากเจตนาของทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว เปิดช่องให้ขอตัวนายวีระ และ น.ส.ราตรี ผ่านสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ อีกทั้งมีการพิจารณาลดโทษให้ด้วย จะเห็นว่า ฝ่ายการเมืองได้เปิดทางไว้แล้ว จากนี้ไปจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไร
