xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ถก ครม.ดัน “พระนาย” ปลัด มท. ปรับเกณฑ์ “บ้านหลังแรก-รถคันแรก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  (แฟ้มภาพ)
“ยิ่งลักษณ์” ประชุม ครม.วันนี้ ย้าย “วิเชียร” ดัน “พระนาย” นั่งเก้าอี้ปลัดมหาดไทยเต็มตัว ตั้ง “วงศ์ศักดิ์” ผู้ช่วย รมต.มหาดไทย จับตาเด้งสิงห์แดงเด็กภูมิใจไทยเข้ากรุ ขณะที่กระทรวงคลังเสนอทบทวนมาตรการบ้านหลังแรก หักภาษีได้โดยไม่ต้องรอลดหย่อน ให้ดอกเบี้ย 0% 2-3 ปี ส่วนรถคันแรกปล่อยผีไม่จำกัดซีซี รถนำเข้าก็อยู่ในเกณฑ์ ขยายโครงการรถไฟ-รถเมล์ฟรีต่อ ส่วนกลาโหม ขอ 2.7 พันล้านซื้อแบล็กฮอว์ก 2 ลำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (27 ก.ย.) ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีวาระที่น่าสนใจได้แก่ กรณี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย จะเสนอรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยเสนอย้ายนายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ พร้อมแต่งตั้งนายพระนาย สุวรรณรัฐ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย

นอกจากนี้ยังต้องจับตาว่า กระทรวงมหาดไทยจะถือโอกาสเสนอโยกย้ายข้าราชการระดับอธิบดีสายพรรคภูมิใจไทยที่ครองกระทรวงมหาดไทยมาในรัฐบาลยุดที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีกระแสข่าวว่าจะย้ายนายสุรชัย ขันอาสา อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวีระยุทธ์ เอี่ยมอำภา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสุกิจ เจริญรัตนกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พี่ชาย นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล คนสนิทคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง แทนตำแหน่งนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง ที่จะเกษียณอายุราชการ

ขณะเดียวกัน คาดว่านายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะถูกย้ายเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อปูทางที่จะให้ขึ้นสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย หลังจากที่นายพระนาย สุวรรณรัฐ เกษียณอายุราชการในปี 2555 และจะผลักดันนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การโยกย้ายครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการล้างบางข้าราชการกลุ่มสิงห์แดง หรือศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดใหญ่หลายจังหวัด ที่คาดว่าจะถูกย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย หรือถูกย้ายไปอยู่จังหวัดเล็ก เช่น นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯนครราชสีมา นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าฯ สุรินทร์ นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ

นอกจากนี้ ยังมี ผวจ.ที่ได้รับการแต่งตั้งสมัยพรรคภูมิใจไทยที่คาดว่าจะถูกย้าย เช่น นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯนนทบุรี นายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าฯ ปทุมธานี นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าฯ เชียงราย เป็นต้น

มีรายงานข่าวด้วยว่าจะมีการเสนอแต่งตั้งนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเกษียณอายุราชการ และมีสายสัมพันธ์อันดีกับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทยด้วย

สำหรับกระทรวงอื่นๆ ก็จะมีการเสนอโยกย้ายเช่นกัน เช่น กระทรวงแรงงาน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน จะเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงแรงงานให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบ จำนวน 6 ตำแหน่ง คาดว่าจะเสนอแต่งตั้งนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ รองปลัดกระทรวงแรงงานไปเป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) นายประวิทย์ เคียงผล รองอธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) ขยับขึ้นเป็นอธิบดี กกจ. นายประพันธ์ มนทการติวงศ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เป็นอธิบดี กพร. นายอาทิตย์ อิสโม ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็น อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) นางปราณิน มุตตาหารัช ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน น.ส.ส่งศรี บุญบา หรือนายปกรณ์ อมรชีวิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานเป็นรองปลัดกระทรวง

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข จะเสนอแต่งตั้งโยกย้าย 7 ตำแหน่ง คาดว่า นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ รองปลัด สธ. ไปเป็นอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต ไปเป็นรองปลัด สธ. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองปลัด สธ.ไปเป็นอธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ตรวจราชการกระทรวง เขต 18 ไปเป็นรองปลัด สธ. พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ไปเป็นอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.นิทัศน์ รายยวา ผู้ตรวจราชการกระทรวง เขต 10 ไปเป็นรองปลัด สธ. นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง และผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 12 ไปเป็นอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 6 ไปเป็นอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ด้านกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะเสนอให้ ครม.พิจารณาแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) จำนวน 5 คน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว ได้แก่ นายโสภณ จันเทรมะ เป็นประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย นายกนก พรรณรักษา นายถวิล อินทรักษา นายประสิทธิ์ แสนศิริ และนายปรีชา จำปารัตน์ ภายหลังจากที่ก่อหน้านี้ นายคัมภีร์ แก้วเจริญ ได้ขอถอนตัวไป และ ยธ.ได้เสนอรายชื่อนายสมศักดิ์ วงส์ยืน เข้ามาแทนนายคัมภีร์ ซึ่ง ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 54 เห็นชอบให้เป็นกรรมการ ป.ป.ท.แทนนายคัมภีร์แล้ว และให้เสนอสภาฯและวุฒิสภาให้ความเห็นชอบตามลำดับต่อไป แต่ได้มีการยุบสภาไปก่อน ทำให้ชื่อของนายสมศักดิ์เป็นอันตกไป ยธ.จึงได้เสนอครม.เพื่อขอความเห็นชอบแต่งตั้งต่อไป

สำหรับนโยบายประชานิยมของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ยังมีปัญหาถูกวิจารณ์ว่าไม่ทั่วถึง คาดว่าในการประชุม ครม. กระทรวงการคลัง จะปรับมาตรการภาษีบ้านหลังแรก เปลี่ยนจาก “ลดหย่อนภาษี” มาเป็น “หักภาษีเงินได้โดยตรง” โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการหักภาษีกันใหม่ จากเดิมให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อบ้านหลังแรก 10% ของราคาบ้านมาหักลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ให้เปลี่ยนเป็นนำค่าใช้จ่าย 10% ของราคาบ้านมาหักภาษีได้โดยตรง ในระยะเวลา 5 ปี

และกระทรวงการคลังได้ศึกษาการกำหนดมาตรการวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยร้อยละ 0 ระยะเวลา 2-3 ปี สำหรับบ้านราคา 1-2 ล้านบาท โดยจะครอบคลุมบ้านมือสองสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของสถาบันการเงิน และบ้านหลังแรก โดยจัดสรรวงเงินสินเชื่อไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ปีละ 400 ล้านบาท มีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นผู้ดำเนินการ รวมถึงการปรับปรุงลดค่าธรรมเนียมในการจดจำนองและค่าโอนด้วย

ส่วนมาตรการภาษีรถยนต์คันแรก กรมสรรพสามิตได้กลับไปทบทวนมาตรการดังกล่าวแล้ว และมี 2-3 เรื่องที่จะแก้ไขเพิ่มเติม โดยจะไม่จำกัดทั้งรุ่น รถยนต์ แหล่งผลิต และขนาด ซีซี.

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังขออนุมัติการกู้เงินในประเทศและให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้ต่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิตสะพานใหม่ งบประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท และช่วงแบริ่ง- สมุทรปราการงบประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท และขออนุมัติเงินให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. เพื่อให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ อีก 1,860 ล้านบาท

และจะมีรายงานผลการศึกษาการให้บริการตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล เบื้องต้นพบว่าถ้าลดราคาค่าโดยสารลง ปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นกว่าระบบจะรองรับได้ คือเกิน 4.2 หมื่นคน จากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการอยู่ 3.6 หมื่นคน ซึ่งย่อมจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการให้บริการและความปลอดภัย

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังเสนอให้ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบการเสนอขอรับเงินอุดหนุนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประจำปีงบประมาณ 2554 โดย รฟท.ขอรับเงินอุดหนุนสำหรับการให้บริการสาธารณะ จำนวน 4,159.229 ล้านบาท สำหรับการให้บริการเดินขบวนรถเชิงสังคม จำนวน 164 ขบวน โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการเชิงสังคมที่เป็นผู้มีรายได้น้อย จำนวน 31.205 ล้านคน

ส่วน ขสมก.ขอรับเงินอุดหนุนสำหรับบริการสาธารณะ จำนวน 1,513.629 ล้านบาท เพื่อให้บริการรถโดยสารประจำทางสาธารณะประเภทรถธรรมดา จำนวน 1,655 คัน โดยมีอัตรารถออกวิ่งร้อยละ 96 คิดเป็นรถโดยสารที่ให้บริการจริง จำนวน 1,589 คัน (ระยะทาง 209 กม./คัน/วัน ) จากรถทั้งหมดจำนวน 3,502 คัน โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอให้ ครม.พิจารณากรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2555 โดยขอให้ครม.รับทราบประมาณการงบประมาณทำการประจำปีงบประมาณ 2555 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ ประมาณ 83,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 15.1 โดยสามารถจัดหาเงินสดเพื่อใช้ลงทุนได้ประมาณ 228,612 ล้านบาท และรับทราบประมาณการแนวโน้มการดำเนินงานช่วงปี 2556-2558 ของรัฐวิสาหกิจที่คาดว่าผลประกอบการจะมีกำไรสุทธิรวม 283,189 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณปีละ 94,396 ล้านบาท และการเบิกจ่ายลงทุนรวม 1,100,330 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณปีละ 366,777 ล้านบาท และ ขอความเห็นชอบกรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2555 วงเงินดำเนินการ จำนวน 613,717 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน 319,732 ล้านบาท (ไม่รวมบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเป็นวงเงินลงทุนเบื้องต้นที่ต้องรอผ่านความเห็นชอบจากการประชุมผู้ถือหุ้น)

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินยืมกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดหาปุ๋ยปีเพาะปลูก 2546/47 ทั้งนี้ กษ.รายงานว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (18 ธันวาคม 2550) แล้วโดยได้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ในส่วนของลูกหนี้โครงการฯ จำนวน 18 แห่งที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ ให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป 3 ปี แต่ปรากฏว่ามีลูกหนี้โครงการที่ค้างชำระอยู่อีก 9 แห่ง จำนวนเงิน 1,428,814.62 บาท จึงได้นำเสนอคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอีก จนกว่าจะเสร็จสิ้นการบังคับคดี

สำหรับระเบียบวาระอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น กระทรวงกลาโหมจะเสนอขออนุมัติโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์แบบ แบล็กฮอว์ก รุ่นเอ็ม (UH-60-M/Black Hawk) ของกองทัพบก เพื่อภารกิจด้านธุรการและยุทธวิธีจำนวน 2 ลำ วงเงินประมาณ 2.7 พันล้านบาท จากเดิมที่ได้ตั้งงบประมาณในการจัดหาไว้ 3 ลำ วงเงินประมาณ 3 พันล้านบาท แต่เนื่องจากค่าเงินของสหรัฐฯ และราคาเฮลิคอปเตอร์เพิ่มสูงขึ้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) เสนอขอความความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ. ... เพื่อปรับปรุงวิธีการแจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร และปรับปรุงอัตราโทษใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของแรงงานต่างด้าว
กำลังโหลดความคิดเห็น