รองนายกฯ มอบนโยบายประชุมยุทธศาสตร์พัฒนาเสริมความมั่นคงของชาติ ยันรัฐลดความขัดแย้งสู่ความปรองดอง ลั่นใครทำชาติเสียหายต้องจัดการไม่ละเว้นทุกสี เน้นหัวโจก จัดการเป็นรายตัว แต่ไม่เล่นงานพวกล้มสถาบันดะ อ้างต้องมีหลักฐานก่อน รับเว็บหมิ่นในประเทศลดน้อย แต่ต่างประเทศยังมีเพียบ ยันพร้อมฟันสื่อด้วย เล็งฟื้นฟูลูกเสือชาวบ้านสร้างปรองดอง
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ (พ.ศ.2555-2559) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักนายกรัฐมนตรี โดย พล.ต.อ.โกวิท กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาลพยายามลดความขัดแย้งเพื่อเข้าสู่ความปรองดอง ซึ่งตนได้บอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตนก็จะทำ แต่สิ่งใดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องจัดการไม่มีการละเว้น ถ้าไปแบ่งแยกว่าใครอยู่กลุ่มใด สีไหน ก็จะไม่จบ จึงต้องตั้งต้นที่ว่าใครเป็นหัวโจกที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายก็ต้องถูกจัดการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฝ่ายความมั่นคง และรัฐบาลจะยืนอยู่ตรงจุดนี้ โดยจุดใดที่เสียหายต่อบ้านเมืองจะถูกจัดการตามลำดับ ไม่ใช่ว่าจะมองว่าทางใดเป็นพวกเรา และทุกหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ต้องกังวลว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะละเว้นต่อสิ่งที่ทำความเสียหายต่อบ้านเมืองและสถาบัน เพราะใครที่ทำให้เกิดความเสียหายก็ต้องถูกจัดการไปเป็นเฉพาะราย แต่ถ้าใครไม่ผิด เราก็จะไม่รังแก
“เราจะไม่ประกาศโจมตีว่าจะจัดการกับใคร เพราะเราต้องมีพยานหลักฐาน ไม่ใช่ประกาศว่าใครจะล้มสถาบันแล้วเราจะไปเล่นงาน ฝ่ายความมั่นคงต้องได้พยานหลักฐานก่อน เมื่อจับกุมและตั้งข้อหาได้ก็จะชี้แจง ทั้งนี้ การที่ตนดูแลกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) นั้น ตนได้เข้าไปดูการละเมิดสถาบัน พบว่า เว็บไซต์ในประเทศที่หมิ่นสถาบัน มีจำนวนลดลง แต่ในต่างประเทศยังมีจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไขกันต่อไป ส่วนสื่อมวลชนและคอลัมน์ต่างๆ นั้น บางส่วนอาจจะไปทางซ้ายหรือขวา ซึ่งถ้ามันถึงขั้นเสียหาย ก็ต้องถูกเข้าไปจัดการ” พล.ต.อ.โกวิท กล่าว
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา รัฐบาลจะอนุมัติโครงการฟื้นฟูกิจการลูกเสือชาวบ้านในทุกจังหวัด ในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้เกิดความปรองดอง โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการจะจัดวิทยากรลงพื้นที่ฟื้นฟูเพื่อให้เกิดความสามัคคี ไม่แบ่งแยก จะทำให้กิจการลูกเสือนำประชาชนไปทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่ทำร้ายหรือโจมตีใคร