ส.ว.แฉ “โสมแดง” แห่ลอบเข้าไทยผ่าน ตม.เชียงราย เผยปี 53 ทะลักกว่า 1,650 คน พอจับได้ขาด จนท.สอบสวน เหตุคุยไม่รู้เรื่อง แนะรัฐอุดหนุนงบค่าล่ามแปลภาษี-ค่าอาหาร ขณะที่ ส.ว.เพชรบุรีวอน ครม.ยืนยันร่าง กม.ไร้สัญชาติ หลังค้างเติ่งในวุฒิฯ
วันที่ (26 ก.ย.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภา พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน ได้เปิดโอกาสให้ที่สมาชิกหารือถึงเรื่องทั่วไป โดย พล.ต.ท.นพ.สมยศ ดีมาก ส.ว.สรรหา กล่าวถึงเกี่ยวกับการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย ซึ่งมีด่านชายแดนที่ดูแลอยู่ 3 ด่าน ได้แก่ ด่านแม่สาย ด่านเชียงของ และด่านเชียงแสงว่า ตำรวจคนเข้าเมืองมีหน้าที่ในการดูและประชาชนชาวไทยและพม่า ให้เดินทางเข้าออกทั้ง 3 ด่านนี้ สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ การจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากสถิติการลักลอบเข้าเมืองของชาวเกาหลีเหนือในปี 2547 มีเพียง 28 ราย ปี 2548 มี 100 ราย ปี 2549 มี 367 ราย และปี 2553 มี 1,650 ราย
ทั้งนี้ ชาวเกาหลีเหนือได้เดินทางผ่านประเทศจีน ลาว และพม่า และลักลอบเข้าเมืองไทยที่ด่านเชียงของ และเชียงแสน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คือ การสอบสวนชาวเกาหลีเหนือ ไม่สามารถสื่อสารกันได้รู้เรื่อง เนื่องจากขาดล่ามในการสื่อสาร ขณะที่มีการกักขังชาวเกาหลีเหนือไว้เพื่อนำส่งมายัง กทม. เพื่อส่งต่อไปประเทศที่ 3 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย ต้องใช้งบประมาณที่มีจำนวนน้อยมาใช้เป็นค่าอาหาร และค่าขนส่ง ขอฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องช่วยหาล่ามภาษาเกาหลีมาประจำที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย และเพิ่มงบประมาณในส่วนของค่าอาหาร และค่าขนส่งให้พอเพียง
ทั้งนี้ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ได้หารือด้วยว่า กรณีร่าง พ.ร.บ.ไร้สัญชาติ ยังค้างอยู่ในวุฒิสภา ตนรู้สึกเป็นกังวลว่า วาระที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะหยิบขึ้นมาพิจารณาก็ใกล้จะหมดวาระ ภายใน 60 วัน ที่ร่างกฎหมายต้องเป็นอันตกไป ตาม ม.153 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย ทั้งที่ทางวุฒิสภายังให้ความสำคัญและมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบ รัฐบาลเองก็ควรเมตตาหยิบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้พิจารณาในการประชุม ครม.ในวันที่ 27 ก.ย.ด้วยเช่นกัน
วันที่ (26 ก.ย.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภา พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน ได้เปิดโอกาสให้ที่สมาชิกหารือถึงเรื่องทั่วไป โดย พล.ต.ท.นพ.สมยศ ดีมาก ส.ว.สรรหา กล่าวถึงเกี่ยวกับการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย ซึ่งมีด่านชายแดนที่ดูแลอยู่ 3 ด่าน ได้แก่ ด่านแม่สาย ด่านเชียงของ และด่านเชียงแสงว่า ตำรวจคนเข้าเมืองมีหน้าที่ในการดูและประชาชนชาวไทยและพม่า ให้เดินทางเข้าออกทั้ง 3 ด่านนี้ สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ การจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากสถิติการลักลอบเข้าเมืองของชาวเกาหลีเหนือในปี 2547 มีเพียง 28 ราย ปี 2548 มี 100 ราย ปี 2549 มี 367 ราย และปี 2553 มี 1,650 ราย
ทั้งนี้ ชาวเกาหลีเหนือได้เดินทางผ่านประเทศจีน ลาว และพม่า และลักลอบเข้าเมืองไทยที่ด่านเชียงของ และเชียงแสน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คือ การสอบสวนชาวเกาหลีเหนือ ไม่สามารถสื่อสารกันได้รู้เรื่อง เนื่องจากขาดล่ามในการสื่อสาร ขณะที่มีการกักขังชาวเกาหลีเหนือไว้เพื่อนำส่งมายัง กทม. เพื่อส่งต่อไปประเทศที่ 3 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย ต้องใช้งบประมาณที่มีจำนวนน้อยมาใช้เป็นค่าอาหาร และค่าขนส่ง ขอฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องช่วยหาล่ามภาษาเกาหลีมาประจำที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย และเพิ่มงบประมาณในส่วนของค่าอาหาร และค่าขนส่งให้พอเพียง
ทั้งนี้ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ได้หารือด้วยว่า กรณีร่าง พ.ร.บ.ไร้สัญชาติ ยังค้างอยู่ในวุฒิสภา ตนรู้สึกเป็นกังวลว่า วาระที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะหยิบขึ้นมาพิจารณาก็ใกล้จะหมดวาระ ภายใน 60 วัน ที่ร่างกฎหมายต้องเป็นอันตกไป ตาม ม.153 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย ทั้งที่ทางวุฒิสภายังให้ความสำคัญและมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบ รัฐบาลเองก็ควรเมตตาหยิบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้พิจารณาในการประชุม ครม.ในวันที่ 27 ก.ย.ด้วยเช่นกัน