“เด็จพี่” ร่ายยาว เชื่อมีฮั้วประมูลกล้องวงจรปิด กทม.จี้ ป.ป.ช.สอบด่วน ขู่พวกค้ายาระวังไว้ ลั่นปราบแน่ แฉ “ถ” เอี่ยวน้ำมันเถื่อนใต้ นัดแบ่งเค้ก 19 กมธ.พรรคอังคารนี้ โถ... เชื่อสุดๆ นิติราษฎร์เป็นกลาง ทำเพื่อประชาธิปไตย ซัด “มาร์ค” ป๊อด ไม่กล้าเผชิญหน้า
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตรวจสอบการทุจริต 172 โครงการของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดประเด็นเรื่องกล้อง cctv ที่พบว่า มีการจัดซื้อที่น่าจะมีการฮั้วประมูล และน่าจะมีการชักเปอร์เซ็นต์ประมาณ 20-25 เปอร์เซ็นต์ และประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูลกลางของกล้อง CCTV น่าจะมีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าในสัญญา TOR ที่ระบุเอาไว้ โดยคณะทำงานได้ยื่นเรื่องนี้ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ดำเนินการต่อไป เพราะเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาที่สร้างความไม่สบายใจให้กับประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.น่าจะเข้าดำเนินการโดยด่วน เพราะภาพลักษณ์ของ ป.ป.ช.ก็เสียหายมามากในอดีต เพราฉะนั้น ป.ป.ช.น่าจะทำเรื่องนี้เป็นคดีตัวอย่าง ตนอยากจะฝากไปถึงฝ่ายค้านให้ช่วยกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากว่ามีประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามามาก ตนก็อยากจะให้ฝ่ายค้านได้เข้ามาทำงานร่วมกันกับทางรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และจะไม่ให้เป็นบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อผู้บริหารของประเทศ
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวต่อถึงปัญหาเรื่องยาเสพติด ที่ผลโพลมีการระบุว่า การปราบปราบยาเสพติดนั้น ได้ผลมาสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่มาถึงรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ การปราบปรามยาเสพติดกลับไม่ได้รับการใส่ใจ ตนคิดว่า ในรัฐบาลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น จะกลับมาเอาจริงเอาจังเรื่องนี้อย่างมากที่สุด ซึ่งในขณะนี้ทาง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้เร่งทำงาน โดยผลงานก็ได้สร้างความพอใจให้กับประชาชนในขั้นตอน เพราะการนำปัญหายาเสพติดมาเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งนี้ ตนจะนำเรื่องนี้เอาที่ประชุมพรรคในวันอังคารที่จะถึงนี้ เนื่องจากประชาชนยังมีความต้องการจะให้การปราบปรามปัญหายาเพติดให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอเรียกร้องไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ว่า ให้หยุดดำเนินการ เนื่องจากพรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเข้มงวด
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการค้าน้ำมันเถื่อนระหว่างฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน เช่นจังหวัดสตูล ตรัง สงขลา กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง โดยมีลักษณะเหมือนกองทัพหมด และสามารถขายน้ำมันได้ประมาณ 300 ล้านบาทต่อวัน โดยส่งผลทำให้รัฐต้องเสียเงินภาษีเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นประชาชนได้เรียกร้องมาที่พรรคเพื่อไทย ว่า มีนักการเมืองอักษรย่อ ถ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย ได้ถูกแบ่งตามโควตาของ ส.ส.ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็ได้มาทั้งหมด 19 คณะ ซึ่งก็จะมีการเริ่มประชุมเพื่อจัดตำแหน่งของกรรมาธิการทั้ง 19 คณะ ในวันอังคารที่ 27 กันยายนนี้ และจะมีการเสนอที่ประชุมสภาในวันพุธที่ 18 กันยายน
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวว่า กรณีที่ กลุ่มนิติราษฎร์ เสนอแนวคิดให้ล้มล้างผลพวงจากการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 รวมทั้งให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ไม่มีราคาพอ ซ้ำยังท้าให้เลิกอ้างสถานะนักวิชาการในการเคลื่อนไหวต่างๆ ออกมาให้ข่าวเรื่องนี้นั้น อีกทั้ง นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังระบุว่า กลุ่มนักวิชาการดังกล่าวว่ามีการรับงานจากใคร และดำเนินการเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่นั้น พรรคเพื่อไทย ขอปฏิเสธว่า ไม่มีการดำเนินการช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น ตนเชื่อในความเป็นนักวิชาการที่เป็นกลาง และต้องการให้เกิดประชาธิปไตยในสังคมไทยอย่างแท้จริงเท่านั้น การวิพากษ์วิจารณ์ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการดูถูกการทำงานของนักวิชาการ ซึ่งกลุ่มนักวิชาการทั้ง 7 คนจะมาจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันนี้นั้น ได้มีการส่งหนังสือเชิญไปยังนายอภิสิทธิ์ และนายถาวร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ซึ่งตนคิดว่า เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่พรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความกล้าพอที่จะไปเผชิญหน้ากับกลุ่มนักวิชาการ
ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ ได้ยื่นหนังสือส่งถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งให้รัฐบาลช่วยเหลือการจ่ายเงินชดเชยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่มีการประสานงานกับฝ่ายค้าน และรัฐบาล แต่รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งแน่ใจในเรื่องนี้ เพราะมีการดำเนินการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอขอบคุณไปยังนายอภิสิทธิ์ ที่มีการส่งหนังสือมาให้ แต่ถึง นายอภิสิทธิ์ ไม่ส่งหนังสือมารัฐบาลก็ต้องทำอยู่แล้ว
