xs
xsm
sm
md
lg

“ยุทธศักดิ์” เผยส่งโผทหารให้นายกฯ แล้ว “ประยุทธ์” ยันไม่มีทะเลาะกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  (แฟ้มภาพ)
“ยุทธศักดิ์” ยันโผทหารไร้ปัญหา ส่งให้นายกฯ แล้ว “ประยุทธ์” ระบุพิจารณารอบคอบ ไม่มีการทะเลาะกัน เผยนายกฯ ทหารแก้ใต้ใชั้แนวทางดีที่สุด แนะปรับปรุงงบประมาณ เร่งขับเคลิ่อนยุทธศาสตร์ รองโฆษก ทบ.เผยนายสั่งทหารปรับแผนช่วยน้ำท่วม เน้นสัญจรสะพดวก ส่งทหารช่างขุดลอกคูคลองเปิดทางน้ำไหล


พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหาร ประจำปีว่า เรื่องโผมีความเรียบร้อยดี เราประชุมเพียง 10 นาที หน่วยงานละ 2 นาทีเท่านั้น นอกนั้นเป็นการหารือเกี่ยวกับงานของกองทัพ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เพื่อให้เกิดความเข้าใจตนเรียนว่า ในการประชุมเรามีคณะกรรมการทั้งหมด 6 คน และในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการ ตนจะนั่งเป็นประธานโดยไม่ออกเสียง แต่ให้ทั้ง 5 หน่วยงานของกระทรวงกลาโหม คือ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ เสนอทีละหน่วยงาน และเมื่อทุกหน่วยงานเสนอและมีความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ทุกกองทัพก็จะเรียบร้อย ทั้งนี้ตนได้ส่งบัญชีรายชื่อให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 22 ก.ย.แล้ว ซึ่งมั่นใจว่า โผ ทหารที่จะออกมาจะสร้างความมั่นคงแข็งแรงให้กับกองทัพ และจะทำให้เป็นกองทัพของประชาชน กองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความมั่นใจที่สุดในขณะนี้ ตนขอยืนยัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ไม่มีปัญหากับนายกฯ แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธ์ศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหากับท่านนายกฯ เลย ยืนยันไม่มีการส่งกลับอีกแล้ว และคิดว่าทันเวลา เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีการส่งกลับแต่จะมีการแก้ไขอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ยุทธ์ศักดิ์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ ว่า “ไม่มีครับ ยืนยันครับ”

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า บัญชีการโยกย้ายนายทหารเป็นการปรับย้ายตามสถานการณ์และความเหมาะสม ซึ่งทุกคนในกองทัพดีหมด ไม่ใช่ว่าคนที่ไม่ได้ไม่ดี เพียงแต่ตำแหน่งมีน้อย ต้องหมุนเวียนกันไปตามความเหมาะสม โดยเราได้พิจารณาอย่างรอบคอบอยู่แล้ว เราไม่ทะเลาะกันอยู่แล้ว ทหารโตมาด้วยกันทะเลาะกันไม่ได้ ในส่วนของกองทัพบก ไม่มีฝ่ายการเมืองมาล้วงลูก ซึ่งเราได้มีการประชุมหารือกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งผลก็ออกมาด้วยดี อย่างไรก็ตาม ต้องรอการโปรดเกล้าฯ ซึ่งเราอยากให้ดูว่าที่เราตั้งมาทำงานกันดีหรือไม่ ส่วนจะทันโปรดเกล้าฯ ทันวันที่ 1 ต.ค.นั้น คงเป็นเรื่องดำเนินการตามขั้นตอน จะช้าหรือเร็วก็แล้วแต่พระองค์ท่าน เพราะการโปรดเกล้าฯ เป็นเรื่องของส่วนพระองค์

พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญไปหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหา3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า เป็นการประชุม เพื่อชี้แจงถึงแนวทางการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของกองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในราอาณาจักร (กอ.รมน.) และกองอำนวยการของกองทัพบก ให้ที่ประชุมทราบว่า การทำงานในภาคใต้ไม่ได้ดำเนินการในการใช้กำลังแต่เพียงอย่างเดียว แต่มีการเนินการหลายมิติ การปฏิบัติงานในเชิงรุก โดยใช้กำลังทหารทหาร ตำรวจ ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย วิธีรับ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน คุณภาพชีวิต โดยเราได้ดำเนินการโดยใช้การวางแผนอย่างครบถ้วน โดยใช้ยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักนำ และใช้ยุทธศาสตร์รองอีก 6 ยุทธศาสตร์ เพื่อครอบคลุมการดำเนินการทุกมิติ อย่างไรก็ตามสถานการณ์มีแนวโน้มพัฒนาไปในทางที่ดี

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมด ทำให้ผู้ก่อเหตุพยายามใช้ความรุนแรงให้ประชาชนรู้สึกหวาดกลัว จนไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเราคงต้องแก้กันต่อไป ทั้งนี้ตนได้นำเรียนในที่ประชุมว่า สิ่งต่างๆที่ทำมาตลอดเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในขณะนี้ คงไม่มีการคิดเป็นอย่างอื่น และที่ผ่านมาก็พยายามแก้ปัญหามาโดยตลอดโดยใช้กำลัง พลเรือน ตำรวจ ทหาร โดยประชาชนมีส่วนร่วม ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นตามลำดับ แต่สิ่งที่ต้องแก้คือการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ว่าจะทำอย่างไรทั้งด้านของ กฎหมายและความร่วมมือของประชาชน โดยเฉพาะขณะนี้เป็นช่วงที่จะต้องมีเทศกาลทางศาสนา ก็จะมีความรุนแรงทุกครั้ง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการปรับปรุงคือ การเร่งดำเนินการในเรื่องที่มีความล้าช้า เช่น งบประมาณ วิธีการบริหารจัดการ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ต่างๆต้องปรับเล็กน้อยเพื่อให้รวดเร็วร่วมถึงการแก้ ปัญหา นอกจากยังมีการพูดถึงการทำงานร่วมกันของ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเราไม่มีความขัดแย้งกันและที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดก็ให้ความร่วม มือเป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะมีกระแสข่าวที่พูดกันออกไป โดยการใช้คำพูดที่ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในอดีต ซึ่งในปัจจุบันผู้ว่าราชการจังหวัดใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกคนทำหน้าที่และออกมาทำงาน เคียงคู่กับ พลเรือน ตำรวจ ทหาร มาโดยตลอด ตนขอยืนยัน ทุกท่านที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ ก็ได้ทำงานมาโดยตลอด และเราก็ไม่เคยขัดแย้งกัน เพื่อแต่ต้องปรับวิธีการดำเนินการให้รวดเร็ว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาการรุกป่าบาลา-ฮาลา พื้นที่สวนป่าสิริกิติ์ ใน จ.ยะลานั้น ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล และในที่ประชุมสภากลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้แนวทางในการแก้ปัญหาอยู่แล้ว ซึ่งตนได้กำชับ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ว่าต้องมีผลปรากฏมาให้ได้ว่าใครบุกรุกอย่างไร และต้องระงับให้ได้ เพราะเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในภาคใต้ และมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงต่อเรื่องความรุนแรงในภาคใต้ด้วย ต้องจัดการและเคลียร์ให้เรียบร้อย

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยว่า กองทัพบกโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการเพิ่มเติมให้หน่วยทหารปรับการช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบภัยในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการสัญจรไปมาทั้งทางรถและทางเรือ โดยใช้ยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ อาทิ รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบนและให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกจัดหาเรือเพิ่มเติม ส่งไปเสริมการสัญจรในพื้นที่ที่ขาดแคล

ขณะเดียวกัน ให้จัดทหารชุดลาดตระเวนทั้งทางรถยนต์ และเรือ เพื่อตรวจสถานการณ์ สร้างความปลอดภัย เยี่ยมเยียนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมกับนำวิทยุทรานซิสเตอร์ไปแจกจ่ายให้ประชาชนได้เปิดวิทยุรับฟังข้อมูลข่าวสารด้วย รวมถึงให้หน่วยทหารนำเครื่องให้แสงสว่างในเวลากลางคืนที่ได้รับบริจาคมา และให้จัดหาเพิ่มเติมจากเงินบริจาค เช่น ไฟฉายพร้อมถ่าน, ตะเกียง นำไปแจกจ่ายเพื่อให้ผู้ประสบภัยได้ใช้ในเวลากลางคืน

นอกจากนี้ ให้หน่วยทหารจัดชุดแพทย์พร้อมชุดนันทนาการเคลื่อนที่ออกให้บริการตรวจสุขภาพและจัดกิจกรรมนันทนาการปลอบขวัญประชาชนอย่างเต็มที่ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้สั่งการให้หน่วยทหารช่างในพื้นที่น้ำท่วมเข้าประสานงานกับส่วน ราชการอื่นๆ ในพื้นที่โดยด่วน เพื่อนำเครื่องมือช่างเข้าขุดลอกคูคลองเปิดทางไหลของน้ำ เร่งลดระดับน้ำท่วม ส่วนการช่วยเหลือในการดำรงชีวิตประจำวันให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง และของจำเป็นอื่นๆ ออกแจกจ่ายประชาชนเพิ่มเติมให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ และไม่ให้ซ้ำซ้อนกับส่วนราชการอื่น

สำหรับพื้นที่อุทกภัยที่น้ำได้ลดลงแล้วหน่วยทหารจะเข้าช่วยฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำรงวิถีชีวิตได้เหมือนเดิมอย่างไรก็ตามขณะนี้ กำลังพลของกองทัพบกยังคงอยู่ในพื้นที่ที่ประสบภัยจำนวน 3,600 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์รถยนต์บรรทุก จำนวน 248 คัน, เรือท้องแบน 65 ลำ, รถน้ำ 2 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องและจะยังคงอยู่ช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
กำลังโหลดความคิดเห็น