xs
xsm
sm
md
lg

ครม.อนุมัติงบ 1.5 หมื่นล้าน สร้างรัฐสภาใหม่ เซ็นตั้ง ขรก.การเมืองยกแผง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฐิติมา ฉายแสง
ที่ประชุม ครม.อนุมัติจัดส่งเรือปั่นน้ำวาง 6 จุด รอบกรุง เร่งระบายก่อนพายุเข้า พร้อมมีมติแต่งตั้ง ป.ป.ช.รายจังหวัด ไฟเขียว 15,000 ล้าน สร้างสภาใหม่ เซ็นเลื่อนขั้นรองผอ.สำนักงบฯ เป็น “ผอ.” ตั้งที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ และผู้ช่วยเลขาฯ รมว.เกษตรฯ ครม. ตั้ง “สมชาย” นั่งรองเลขาฯ ครม.แทนผู้เกษียณอายุราชการ แต่งตั้ง “ขรก.พลเรือนสามัญ” ดำรงตำแหน่งนักบริหารระดับสูง ก.ศึกษาฯ ครม.แต่งตั้ง “สุรวิทย์” ปฏิบัติราชการแทน “นายกฯ” ใน คกก.ตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ อนุมัติ “กิตติรัตน์” ปฏิบัติราชการแทนนายกฯ และ รมว.ก.อุตฯ

วันนี้ (20 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า ได้รับรายงานว่า ยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัยอยู่อีก 26 จังหวัด และสั่งการให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่ดูแลทุกจังหวัด โดยประสานกับทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อรับทราบผลการทำงาน และมอบหมายให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หาจุดเชื่อมต่อเพื่อไม่ให้การทำงานซ้ำซ้อน

ทั้งนี้ ได้เร่งจัดเรือปั่นน้ำ เพื่อระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยกำหนดจุดวางเรือปั่นน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา 6 จุด คือ 1.สะพานพระรามเจ็ด 2.ท่าเรือเกียกกาย 3.สะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้) 3.สะพานพุทธ จุดที่ 4-5 บริเวณคลองลัดโพธ์ ด้านเหนือ และใต้ และสุดท้ายจุดที่ 6 บริเวณ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยเป็นความร่วมมือของ6หน่วยงาน คือ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองทัพเรือ กองทัพบก การท่าเรือแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และ กรมเจ้าท่า โดยให้ทุกจังหวัดดำเนินการเร่งระบายน้ำก่อนที่พายุจะเข้ามา

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (20 ก.ย.) ถึงกรณีที่สำนักงานคณะป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นเรื่องเสนอให้ครม.มีมติเห็นชอบในการขอรับงบประมาณในการเบิกจ่าย-รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด ทั้งนี้ มีจำนวนจังหวัดที่ยื่นเรื่องของบประมาณดังกล่าวมา รวมทั้งสิ้นจำนวน 67 จ.รวมเป็นจำนวนเงิน 513,839,620 ล้านบาท ซึ่งคิดเฉลี่ยแล้วจะได้จังหวัดละประมาณ 9 ล้านบาท

นอกจากนี้ เรื่องที่ ป.ป.ช.เสนอมานั้น ก็เพื่อขอความเห็นชอบให้จังหวัดต่างๆ หรือส่วนราชการอื่นๆ ให้ความอนุเคราะห์ในการให้ใช้สถานที่ เพื่อเป็นที่ทำงานของสำนักงาน ป.ป.ช.รายจังหวัด นอกจากนี้ ยังขอความเห็นชอบในหลักการให้กรมธนารักษ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ให้ความอนุเคราะห์ ในส่วนของการจัดสรรที่ราชพัสดุ ซึ่งมีเหมาะสมและเพียงพอ สำหรับการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช.

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ทางด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้ตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องดังกล่าวไว้ 4 ประการด้วย คือ ประการแรก ให้จัดลำดับความสำคัญ ประการที่สอง ให้ไปดูงบประมาณในการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช.รายจังหวัดมา ว่า มีความสมเหมาะเพียงใด หรือไม่ ประการที่สาม ให้ไปศึกษาปริมาณงาน ว่า เมื่อมีการแยกย้ายออกไปเป็น ป.ป.ช.รายจังหวัดแล้ว จะมีปริมาณงานที่เหมาะสมหรือไม่ และประการที่สุดท้าย ความพร้อมในส่วน ของบุคลากรข้าราชการ ที่จะปฏิบัติงานในสำนักงาน ป.ป.ช.ในรายจังหวัดว่ามีความพร้อม และเหมาะสมกับงานแค่ไหน

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติอนุมัติโครงการและงบประมาณการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร เกียกกาย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร งบประมาณการก่อสร้างกว่า 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าก่อสร้างอาคารรัฐสภาพร้อมอาคารประกอบ 11,000 ล้านบาท งานสาธารณูปโภค ระบบประกอบอาคาร และงานภายนอกอาคาร 586 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3,000 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่า ให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนและจัดตกแต่งอาคารสถานที่ ต้องเหมาะสมและคุ้มค่าในการลงทุน ที่สำคัญ เรื่องการทุจริตโครงการ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง 2 ราย ประกอบด้วย 1.นายเอกพจน์ วงศ์อารยะ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 2.นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2554 เป็นต้นไป

นายชลิตรัตน์ กล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้ง นายสมชาย พฤฒิกัลป์ ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักบริหารสูง) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ครบเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

และอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง 4 ราย คือ 1.นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 2. นายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ

นายชลิตรัตน์ กล่าวต่อว่า 3.นายอนันต์ ระงับทุกข์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และ 4.นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

พร้อมอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้ง นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ

แต่งตั้ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (เพิ่มเติม) สำหรับองค์การมหาชน ดังนี้ คือ 1.การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนใน สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ 2. มอบหมายให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า ครม.ยังอนุมัติแต่งตั้ง ผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา 42
กำลังโหลดความคิดเห็น