xs
xsm
sm
md
lg

พท.ได้ที!! จี้ “สุเทพ” แจงเจรจาเขมร แต่อ้างนายกฯ ไม่มีอำนาจจับ “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
“ประชา” ซัด “สุเทพ” ไม่สมควรเจรจาพลังงานพื้นที่ทันซ้อน จี้เช็กย้อนหลังเกี่ยวประโยชน์หรือไม่ แฉเปิดบัญชีเงินไว้นอกเพียบส่อไซฟ่อนเงินหรือไม่ ไล่ ครม.เงาสอบที เฉไฉจับ “นช.แม้ว” เป็นหน้าที่ กต.อัยการ ตร.นายกฯ ไม่มีอำนาจจับ เชื่อไม่นานเดี๋ยวจะกลับมาเอง “อนุสรณ์” ป้อง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ต้องยืนยันพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ด้าน “เด็จพี่” เย้ยว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เล็งยื่นถอด ส.ส.

วันนี้ (14 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองนายกฯด้านความมั่นคง เดินทางไปพบกับสมเด็จ ฮุนเซน นายกฯกัมพูชา เพื่อเจรจาเรื่องผลประโยชน์ด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนในทะเล ว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่ นายสุเทพ ซึ่งเป็นรองนายกฯในขณะนั้นจะกระทำ เพราะต้องใช้งบประมาณของรัฐ แต่ไม่ได้เป็นการเจรจาเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ดังนั้น เรื่องนี้ตนอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบว่าการเดินทางไปเจรจามีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ เกี่ยวกับผลประโยชน์ทางทะเลอื่นใดหรือไม่ นอกจากนี้ ตนยังทราบว่า นายสุเทพ ได้มีการเปิดบัญชีไว้ในต่าประเทศ ทั้งที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย จึงมีข้อสังเกตว่าใช้ในการไซฟ่อนเงินหรือไม่ หรือหวังที่จะได้เงินทอนจากโครงการต่างๆเพื่อเข้าบัญชีนี้หรือไม่ จึงอยากขอให้ ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย หากถึงเวลาที่ฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนจะนำข้อมูลเรื่องนี้ไปให้เพื่อใช้ในการอภิปรายด้วย นอกจากนี้ ตนจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ส่งให้รัฐบาล เพื่อใช้ในการตรวจสอบต่อไป

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการเดินทางเยือนประเทศกัมพูชาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีอาญา อยู่ในประเทศกัมพูชา อาจจะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 157 นายประชา กล่าวว่า เป็นเพียงการคาดการณ์ทั้งสิ้นว่าทั้งคู่จะมีการนัดพบกัน และในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายและการยุติธรรม ของสภา ทราบดีถึงหลักเกณฑ์ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหา โดยจะต้องทราบที่อยู่ของที่พำนักอย่างชัดเจน โดยจะต้องมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศนั้นด้วย ซึ่งผู้ที่มีอำนาจจับกุมเป็นหน้าที่ของการประสานงานระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการ และสถานทูตของประเทศนั้นๆ ดังนั้นการที่นายกฯ หรือ ส.ส.ที่จะเดินทางไปเตะฟุตบอลนัดกระชับมิตร อยู่จะไปตามหา พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อขอเข้าจับกุมไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจทางกฎหมาย ส่วนการที่ฝ่ายค้านโจมตีว่ารัฐบาลไม่มีความพยายามในการติดตามจับกุมนั้น อยากถามว่า สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลส่งมือหนึ่งอย่าง นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ตามไล่ล่าจับกุม และรัฐบาลก็มีอำนาจในการติดตามจับกุมอย่างเต็มที่ แต่ก็เห็นว่าล้มเหลวกลับมาทุกครั้ง

“เรื่องของท่านทักษิณ ผมคิดว่า เราไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปตามล่า เพราะไม่นานท่านก็จะกลับมาเคลียร์ปัญหาเองทั้งหมด รอเพียงเวลาและเงื่อนไข โดยเฉพาะสภาพจิตใจของผู้ที่มีอคติว่าพร้อมที่จะให้ท่านทักษิณเดินทางกลับมาพิสูจน์ตัวเองได้หรือยัง” นายประชา กล่าว

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศจุดยืนที่ชัดเจน ต่อพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ไทยและกัมพูชา ก่อนเดินทางไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องแสดงจุดยืนอะไร เพราะคงไม่มีใครสงสัยจนจำเป็นต้องแอ๊คอาร์ตโชว์พาวเวอร์อะไร แต่ในทางกลับกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ ควรจะเป็นฝ่ายตอบคำถาม กรณีที่สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยเรื่องอดีตผู้นำรัฐบาลเดินทางไปพบและพยายามขอเจรจาลับกับผู้นำกัมพูชา เกี่ยวกับผลประโยชน์เรื่องทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาจะดีกว่า เพราะเรื่องแบบนี้ควรต้องดำเนินการอย่างเปิดเผย

“ผมคิดว่า นายสุเทพ ต้องตอบประชาชนให้ได้ว่า ไปเจรจาอะไรกับผู้นำกัมพูชาถึง 3 ครั้ง หรืว่าติดใจในรสชาติแกงเลียง และนายสุเทพ ต้องชี้แจงให้ได้ว่า นำเอกสารแผนที่เกี่ยวกับบล็อคน้ำมันในทะเลไปด้วยทำไม เพราะอะไรต้องเร่งรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ และผมขอนำคำพูดของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ มาถามนายอภิสิทธิ์ อีกครั้งว่า อายไหม ที่สมเด็จ ฮุน เซน กล่าวพาดพิงว่า ต้องคอยสอนนายอภิสิทธิ์ ตลอด เมื่อตอนเป็นนายกฯ ก็สอนแล้วสอนอีก ตอนนี้ยังต้องให้สอนอีกหรือ” นายอนุสรณ์ กล่าว

ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากย้อนถคงพฤติกรรมของรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ก็เคยกล่าวหาโจมตีรัฐบาลที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคพลังประชาชน ว่า มีผลประโยชน์แอบแฝงมาโดยตลอด แต่มาวันนี้เมื่อน้ำลดตอผุดกลับเข้าทำนอง ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง อย่างไรก็ตามทุกรัฐบาลที่ผ่านมามีเพียงแต่การเจรจาแบบเปิดเผยเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ แต่นายสุเทพ ซึ่งเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว กลับมีการเจรจาลับ สะท้อนความไม่โปร่งใสของรัฐบาลที่ผ่านมาที่มีลักษณะปิดบังซ่อนเร้น ไม่ให้ประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริง อยากถามไปยังนายสุเทพว่า ถ้าเป็นความจริงจะตอบประชาชนได้อย่างไร เพราะเคยกล่าวหารัฐบาลชุดที่ผ่านมาโดยตลอด

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน ไม่ใช่บิดเบือนว่าสมเด็จฮุน เซน กล่าวให้ร้ายและกล่าวหาว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เอาเรื่องดังกล่าวมากลบข่าวโยกย้ายข้าราชการ ดังนั้นตนในฐานะเป็น ส.ส. จะตรวจสอบการกระทำเหล่านี้ หากเข้าข่ายผิดก็จะดำเนินการยื่นถอดถอนสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ทันที การที่นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ กระทำเช่นนี้ เรียกว่า การตีการเมือง 2 หน้า ด้านหนึ่งก็บอกว่ามีปัญหากับกัมพูชา แต่อีกด้านหนึ่งกลับใช้การทูตในการเจรจาแบบพิธีพิเศษ

“ในฐานะ ส.ส.จะมีการร่วมตรวจสอบเพราะเห็นว่าการเจรจาดังกล่าวเป็นการเจรจาลับและมีวาระซ้อนเร้น ซึ่งเชื่อว่า ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ หากมีความผิดก็อาจจะยื่นถอดถอนนายสุเทพอีกด้วย จึงขอให้สังคม นักวิชาการ นักกฎหมายและสื่อมวลชนช่วยกันตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย และการที่นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ กระทำเช่นนี้ เป็นลักษณะที่เรียกว่า การตีการเมือง 2 หน้า ด้านหนึ่งก็บอกว่ามีปัญหากับกัมพูชา แต่อีกด้านหนึ่งกลับใช้การทูตในการเจรจาแบบพิธีพิเศษ” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องไปขอข้อมูลจาก สมเด็จ ฮุน เซน หรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องการประสานงานของรัฐบาล ส่วนตนในฐานะผู้แทนราษฎร รู้สึกเสียดายที่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งกรรมมาธิการสามัญทั้ง 35 คณะ แต่ตนในฐานะ ส.ส.ก็จะตรวจสอบ เพราะเห็นว่า การเจรจาเป็นการเจรจาลับและมีวาระซ้อนเร้น และเชื่อว่าไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ จึงขอให้สังคม นักวิชาการ นักกฎหมาย และสื่อมวลชน ช่วยกันตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว และขอเรียกร้องไปยังนายสุเทพ ว่า เวลาไปไหนก็ขอให้เอาปี๊บคลุมหัวไปด้วย

นอกจากนี้ เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีการทำหนังสือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีการเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา นายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม และอัยการสูงสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น