ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง “อุกฤษ มงคลนาวิน” นั่ง ปธ.กรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ตามข้อเสนอยุติธรรม หวังแก้ 2 มาตรฐาน เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมาตรฐานเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบัติที่เกิดจากอคติ พร้อมรายงานผลสรุปต่อ ครม.ทุกรอบ 6 เดือน
วันนี้ (13 ก.ย.) นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ เรื่องแต่งตั้ง) นายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 3 วรรค 2 กำหนดว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม ดังนั้น เพื่อเป็นหลักประกันการมีกฎหมายที่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมการใช้ กฎหมายด้วยความเป็นธรรม สุจริต ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน และเพื่อให้บุคคลมีเสรีภาพและความเสมอภาค ตลอดจนได้รับความยุติธรรม จากระบบกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยไม่เลือกปฏิบัติที่เกิดจากอคติต่างๆ ของผู้ที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายรวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ อันนำไปสู่ความสงบสุข เรียบร้อย มีความเป็นธรรม และพึงปรารถนา จึงสมควรให้มีคณะกรรมการการที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความอิสระและเป็นกลาง เป็นผู้ดำเนินการตามอำนาจหนังที่ แนวทางและกำหนดเวลาที่กำหนดในระเบียบนี้
สำหรับรายละเอียดของร่างระเบียบนี้ แม้ว่าวันนี้คณะรัฐมนตรีจะแต่งตั้งนายอุกฤษ เป็นประธานแล้วยังมีกรรมการอื่นอีกไม่เกิน 12 คน สำหรับ นายอุกฤษ อดีตเคยดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ผู้ก่อตั้งสำนักงานทนายความอุกฤษ มงคลนาวิน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรม และเสริมสร้างสิทธิเสรีภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.ยส.จชต.) และกรรมการสภากาชาดไทยนอกจากนั้นยังดำรงตำแหน่งประธานพีระยานุเคราะห์มูลนิธิ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อีกด้วย
อุกฤษ มงคลนาวิน เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2477 สมรสกับท่านผู้หญิง มณฑินี มงคลนาวิน (บุณยประสพ) นางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีบุตรชาย 2 คน คือ ดร.พืชภพ มงคลนาวิน และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัฐชาติ มงคลนาวิน อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อุกฤษ มงคลนาวิน เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2539[1] แต่ได้ขอลาออกหลังจากรับการแต่งตั้งในเดือนเดียวกัน
ทั้งนี้ คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังนี้ คือ กำหนดยุทธศาสตร์ แนวทาง มาตรการข้อเสนอแนะ และกระบวนการต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อเป็นหลักประกันการใช้กฎหมาย ด้วยความเป็นธรรม สุจริตภายใต้มาตรฐานเดียวกันตามหลักนิติธรรม และจัดทำรายงานความคืบหน้าของการทำงานทุกรอบ 6 เดือน รวมทั้งรายงานสรุปผลและข้อเสนอแนะเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจเสนอต่อ ครม.และสาธารณชน และจัดทำให้มีการศึกษาวิจัยในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจัดให้มีเวทีสาธารณะ การประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลและความเห็น และให้การศึกษากับสังคมเป็นระยะๆ โดยเน้นการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของคณะกรรมการ
และเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามหลักนิติธรรม และเชิญผู้แทนหน่วยงานของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้จัดส่งเอกสาร วัตถุ หรือข้อมูลมาเพื่อประกอบการพิจารณา และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน มอบหมายหรือจ้างองค์กร คณะบุคคล หรือบุคคลให้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
ทั้งนี้ สำนักงานเป็นหน่วยงานในสังกัดปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยให้ปลัดกระทรวงแต่งตั้งผู้อำนวยการจากข้าราชการกระทรวง รับผิดชอบงานธุรการ งานวิชาการ งานการประชุม งานประชาสัมพันธ์ และงานเลขานุการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน พร้อมกับติดตามสถานการณ์ ศึกษาและรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการและประสานงานตามที่ได้รับมอบหมาย สำหรับค่าตอบแทนเป็นไปตามที่ ครม.กำหนด
