ร.ร.นายร้อย จปร.จัดพิธีสดุดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ฐานเกษียณปีนี้ เจ้าตัวไม่ก้าวล่วงนายกฯ ส่อเปลี่ยนโผทหาร ชี้ ข่าวบิ๊กท็อปบูตขัดแย้ง “บิ๊กอ๊อด” เขียนกันไปเอง ปัดกระทบสัมพันธ์กองทัพ ยันปลัด กห.ต้องทำงานร่วมคนอื่นได้ ยันไม่มีซื้อขายเก้าอี้ โอ่โยกย้ายไม่มียี้ เอ่ยชื่อคนปรบมือเกลียว
วันนี้ (12 ก.ย.) ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายกรัฐมนตรี อาจเปลี่ยนแปลงรายชื่อในบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารที่ส่งไปถึง ว่า ขณะนี้ขั้นตอนของเหล่าทัพได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปในการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล เมื่อวันที่ 1 ก.ย.และ รมว.กลาโหม ได้นำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหาร ส่งไปที่นายกรัฐมนตรี เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เรียบร้อยแล้ว ส่วนนายกรัฐมนตรีจะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้ เพราะเลยขั้นตอนของกระทรวงกลาโหมแล้ว ตนไม่อาจก้าวล่วง
เมื่อถามว่า มีข่าวความขัดแย้งระหว่าง ผบ.เหล่าทัพ และ รมว.กลาโหม ในการคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ข่าวเขียนไปเอง แต่กรรมการได้ประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว บอกไม่ได้ว่าเราเสนอใคร ซึ่งการนำเรื่องในที่ประชุมมาพูดจะผิดกฎหมาย จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งออกมา อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ กับ รัฐบาล เพราะกองทัพปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล
“คนที่มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ต้องดูเรื่องความสัมพันธ์ในการทำงาน ต้องทำงานร่วมกับกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ได้ เพราะความร่วมมือในกองทัพกับส่วนราชการต่างๆ เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่องค์กรเดียวจะอยู่ได้ แต่ทุกองค์กรต้องทำงานร่วมกันเพื่อประเทศชาติ ด้วยความเสียสละ และคนที่จะมาทำงาน ก็ต้องเป็นที่ยอมรับของเรา ทำงานร่วมกันได้ มีความสามารถในการประสานงานกับต่างประเทศ” พล.อ.ทรงกิตติ กล่าว
เมื่อถามถึงข่าวการซื้อตำแหน่งในโผโยกย้ายทหารนั้น พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่มี ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.สส.ทำงานมา 40 ปี รู้จักกันมาในการทำงานทุกระดับ เห็นว่า ใครมีความรู้ ความสามารถ ใครเหมาะสมอย่างไร ไม่เห็นต้องขัดแย้งเลย ทุกคนมีความสุขดี ความคิดทุกคนเหมือนกัน ส่วนกรณีที่จะมีการส่ง ตีความ พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม เกรงว่า จะเป็นการทำลายหลักประกันของทหารในการแต่งตั้งโยกย้ายทหารหรือไม่นั้น พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า หลักประกัน คือการเลือกคนดี มีความรู้ ความสามารถ ทุกคนยอมรับ ไม่ใช่การหยิบใครขึ้นมาเป็นอะไรก็ได้ อย่าไปกังวลกับเรื่องเล็กๆ ยิบย่อย เราทำงานใหญ่ กว้างขวาง ลึกซึ้ง คนที่จะทำงานต่อไปคือการได้รับการถ่ายทอดงานให้ต่อเนือง ต้องเป็นที่ยอมรับ
“ไม่ยี้หรอกครับ ทุกอย่างต้อง ต้องเป็นที่ยอมรับของกองทัพ เมื่อออกมาสู่สายตาประชาชน ประชาชนทุกคน จะต้องตบมือกับเกลียว” พล.อ.ทรงกิตติ กล่าว
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) แถลงยุทธศาสตร์ชาติให้ นายกรัฐมนตรี รับฟัง ตนติดราชการไปรับฟังยุทธศาสตร์ที่กระทรวงกลาโหมประเทศอังกฤษ ช่วงนี้หลายคนก็เดินทางไปต่างประเทศ เพราะต้องไปทำงาน ช่วงนี้เป็นช่วงการทำงาน ที่เขาต้องสานต่องานด้านการต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (จปร.) ได้จัดพิธีสดุดี และสวนสนามเทิดพระเกียรติ ให้ พล.อ.ทรงกิตติ เนื่องในโอกาสที่จะเกษียณอายุราชการ โดย พล.อ.ทรงกิตติ ได้ให้โอวาทกับตัวแทนนักเรียนนายร้อย ว่า ร.ร.จปร.หล่อหลอมให้ทุกคนมาจากสารทิศ รู้จักคำว่า สามัคคี กลมเกลียว ฝึกให้อดทน อดกลั้น เตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ ไปสู่การที่ต้องรับผิดชอบงานในอนาคต ตนเชื่อมั่นว่า นายร้อยทุกคนจะปฏิบัติตามอุดมการณ์ที่ตั้งไว้ และปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับ สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประชาชนโดยรวม สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ท่านได้รับความรับผิดชอบสูงขึ้น ซึ่งจะยังประโยชน์ให้กับตัวท่านเองในอนาคต
“ผมอยากเห็นทหารที่จบ จาก ร.ร.นายร้อย จปร.มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเชื่อมโยงภาพต่างๆ จากโลกเข้ามาสู่ประเทศไทย และมองกลับไปสู่โลก นำประเทศชาติเดินหน้าเคียงข้างอารยประเทศในอนาคต อาชีพทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และความสง่างาม สิ่งเหล่านี้ต้องอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่มีเกียรติอย่างเดียว ต้องมีความสง่างามควบคู่กันไปด้วย ท่านต้องเดินไปข้างหน้าด้วยสิ่งเหล่านี้ การก้าวสู่ตำแหน่ง ซึ่งผู้บังคับบัญชาจะมอบให้ท่านในอนาคต สุดท้ายพวกท่านก็จะมอบให้อนุชนรุ่นหลังต่อไป เหมือนอดีตนายทหารที่พ้นความรับผิดชอบไปแล้ว”