“ทรงกิตติ” ชี้ ผบ.สส.ใหม่ต้องประสานเหล่าทัพได้ ปัดการเมืองล้วงโผ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ชี้ ผบ.คนใหม่ ต้องประสาน 3 เหล่าทัพได้ มีวิสัยทัศน์ มองเห็นยุทธศาสตร์ชาติ เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน ยันจัดโผง่ายนิดเดียว ปัดการเมืองล้วงลูก โอ่ “บิ๊กอ๊อด” ให้เกียรติกองทัพ แนะอย่ากังวล


วันนี้ (29 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงการโยกย้ายบัญชีรายชื่อนายทหารประจำปี ว่า คุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ จะต้องควบคุมบังคับบัญชากองทัพไทย ซึ่งหมายรวมถึงกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ประสานอำนวยการให้สามารถทำงานร่วมกันได้ มีวิสัยทัศน์ที่จะบูรณาการการทำงานร่วมกันภายในกองทัพ และนอกกองทัพ ซึ่งหมายถึงในต่างประเทศ และมองเห็นทั้งทางยุทธศาสตร์ ทางยุทธวิธี มองเห็นยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ทหาร เป็นที่มั่นใจของประชาชนว่าจะนำกองทัพให้มีความเข้มแข็ง เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนและเป็นกองทัพของประชาชน

เมื่อถามว่า ผบ.สส.คนใหม่ จำเป็นต้องเข้ากับรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า กองทัพทำงานร่วมกับทุกรัฐบาล หรือเห็นตนไม่เคยทำงานร่วมกับรัฐบาลไหนหรือ รัฐบาลสมัยนายสมัคร รัฐบาลนายสมชาย รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ทำ ตนไม่เห็นว่า จะไม่ทำงานกับรัฐบาลไหนเลย ส่วนความคืบหน้าการจัดทำบัญชีรายชื่อขณะนี้รอให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กห.เรียกประชุมก็สามารถหารือได้ ไม่มีอะไรยากเป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว

เมื่อถามว่า การจัดทำบัญชีรายชื่อมีการล้วงลูกจากนักการเมืองหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวยืนยันว่า ไม่มี และขอร้องว่า อย่าใช้คำว่า “ล้วงลูก” เพราะ รมว.กห.ท่านให้เกียรติกองทัพ และมองว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคนเดินทางมาจนถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลา 40 ปีแล้ว ซึ่งทุกคนก็อยู่ใกล้ชิดกับผู้ใต้บังคับบัญชา เรารู้จักกันและรู้ว่าใครจะทำงานในหน้าที่ไหน ทุกคนคิดเหมือนกัน คือ อยากให้กองทัพเข้มแข็ง แข็งแกร่งและสามารถเป็นพลังของประเทศชาติ เป็นพลังของรัฐในการปกป้องอธิปไตย และเป็นกองทัพของประชาชน เราก็ทำหน้าที่ของเรา ซึ่ง รมว.กห.ได้ให้เกียรติ และให้แนวทางว่าว่าการปรับย้ายครั้งนี้จะต้องโปร่งใส ยุติธรรม และต้องตอบกับสังคมได้ ไม่มีใครใช้อคติในการพิจารณา อย่าไปกังวลเรื่องนี้ มีเรื่องอื่นให้กังวลอีกมาก ยืนยันว่ากองทัพมั่นคง