นายกฯ เผย ได้โผทหารมาอยู่ในมือแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดดู ยันไม่มีแทรกแซง กสทช.ชี้ มีหน้าที่ทูลเกล้าฯ ตามกระบวนการ ปัดยื้อ อ้างยังไม่ได้ชื่อเลย บอกต้องถามกฤษฎีกาก่อน เพราะมีข้อท้วงติง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับโผทหารแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลาพิจารณาในรายละเอียดทั้งหมด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดแฟ้มเลย
ส่วนกรณีคัดเลือก 11 รายชื่อ ว่าที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ผ่ายค้านออกมาระบุว่า มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของกลุ่มทุนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของ กสทช.ฝ่ายบริหารมีหน้าที่นำส่งรายชื่อทูลเกล้าฯ แต่ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติมีประเด็นเรื่องข้อร้องเรียน ก็คงจะต้องส่งให้กฤษฎีกาหารือเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งในส่วนของฝ่ายบริหารไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทวงติงอะไร หากไม่มีประเด็นอะไรก็ต้องส่งลงนามโปรดเกล้าฯอยู่แล้ว ตนยืนยันไม่มีการแทรกแซง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีการสรรหา กสทช.เป็นคดีพิเศษนั้น มีการสั่งการหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเท่าที่ทราบเป็นเรื่องที่ถูกร้องเรียน ทางดีเอสไอก็นำมาพิจารณา ซึ่งการทำงานนั้นแยกกันระหว่างนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ส่วนของดีเอสไอก็ว่าไปตามกระบวนการ ส่วนของฝ่ายบริหารในฐานะนายกรัฐมนตรีก็นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
เมื่อถามว่า การที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องรอความเห็นจากกฤษฎีกา และจะยึดความเห็นของกฤษฎีกาหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ปกติถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็นำเรื่องทูลเกล้าฯได้เลย แต่พอมีประเด็นตรงนี้ก็จะให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีหารือกับกฤษฎีกา ซึ่งความเห็นของกฤษฎีกาเป็นรายละเอียดที่จะปฏิบัติในขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อถามว่า ตามข้อกฎหมายนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการชะลอหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีค่ะ ต้องนำส่งอย่างเดียว และไม่ยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว ทั้งนี้ หากได้รับรายชื่อแล้วก็จะดำเนินการทันที ไม่ให้ล่าช้า ซึ่งตอนนี้เรายังไม่ได้รับรายชื่อเลย ซักต่อว่า หากนายกรัฐมนตรีไม่คิดจะยื้อ แล้วทำไมต้องถามกฤษฎีกา นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ฟังจากข่าว เพราะมีข้อทวงติง ซึ่งในส่วนของบริหารก็ทำเรื่องส่งอยู่แล้ว จะปรึกษากฤษฎีกาในเชิงข้อคิดเห็น และข้อแนะนำ ให้ทุกต้องตามข้อกฎหมาย ในฐานะนายกรัฐมนตรีหากมีคนทวงติงมา ถ้าไม่สนใจแล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯก็คงไม่ถูกต้อง ต้องหารือตามขั้นตอนการทำงานให้ถูกหลักอยู่แล้ว