“เป็ดเหลิม” ห้าวได้อีก บอกถูกใจ “ถวิล” แช่งใครทำกรรมอะไรไว้จะได้รับกรรมนั้น อ้างสมัย ปชป.ก็ย้าย ขรก.หลายคน จึงต้องเข้ามาแก้ไขไม่ใช่แก้แค้น ด้านประธาน ก.พ.ค.รอคำร้อง “ถวิล” ประเมินไม่ได้ผลจะออกมาอย่างไร แต่ถ้าผลสอบสรุปว่าคำสั่งย้ายไม่ถูกต้องสามารถกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมได้ทันที
วันนี้ (8 ก.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เตรียมยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการพัฒนาระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) หลังถูกโยกย้ายมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีว่า เป็นสิทธิของนายถวิล หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ก.พ.ค.ได้
อย่างไรก็ตาม การย้ายนายถวิลไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนั้น นายกรัฐมนตรีก็ยังมีงานสำคัญให้ทำอยู่ ทั้งเรื่องน้ำท่วม ยาเสพติด
ส่วนที่นายถวิลระบุว่า ใครทำกรรมอะไรไว้ย่อมได้รับกรรมนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ถูกใจและสะใจตนมากๆ เพราะใครทำกรรมอะไรไว้ต้องได้รับกรรมโดยเร็ววัน และถ้าใครทำกรรมชั่วมากๆ ก็ต้องรับกรรมชั่วมากๆ เช่นกัน ส่วนที่นายถวิลกล่าวหาว่าฝ่ายการเมืองลุแก่อำนาจนั้น ตนไม่อยากตอบโต้เพราะในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็มีการโยกย้ายข้าราชการหลายคนเช่นกัน ขอให้ย้อนไปดูว่าอดีตเป็นอย่างไร ตนมาแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่ใช่แก้แค้น สิ่งที่เข้ามาทำคือ แก้ไขในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่แก้แค้น
นายศราวุธ เมนะเศวต ประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่า นายถวิลทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา อย่างไรก็ตาม การร้อขอความเป็นธรรมดังกล่าว นายถวิลอาจต้องใช้เวลาในการรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ ระยะหนึ่ง แต่หากยื่นเรื่องเข้ามาแล้ว ก็ต้องตรวจสอบว่า เข้าข่ายที่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ซึ่งจะต้องแล้วเสร็จใน 90 วัน นับแต่วันยื่นเรื่อง แต่สามารถขยายเวลาได้ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
ส่วนมติของคณะกรรมการนั้น ผลจะออกมาได้ 2 อย่าง คือ หากผู้ร้องคือนายถวิลไม่เห็นด้วยต่อคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ก็สามารถไปร้องศาลปกครองต่อได้ แต่หากว่าคณะกรรมการเห็นว่าคำสั่งย้ายไม่ถูกต้อง นายถวิลก็สามารถกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนเองได้เลย
นายศราวุธกล่าวว่า ไม่สามารถประเมินสถานการณ์เรื่องดังกล่าวได้ แต่การรับเรื่องร้องทุกข์นั้นไม่น่ามีปัญหา หากยื่นมาใน 30 วัน แต่หากให้ประเมินคำวินิจฉัยคงยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังไม่เห็นข้อมูลต่างๆ ว่าถูกต้องหรือผิดอย่างไร ส่วนการทำหน้าที่นั้นก็ไม่กดดัน เพราะถือว่าปฏิบัติตามหน้าที่ และยืนยันว่ากรรมการทุกท่านเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดแน่นอน