โฆษกภูมิใจไทย เผยที่ประชุมพรรคส่ง “สนอง” อภิปรายแทน “ปู่จิ้น” พร้อม 9 ส.ส.พรรค ใช้เวลา 1.50 ชั่วโมง เน้นเสนอแนวทางแก้และทวงนโยบายหาเสียง แฉบางเรื่องทำไม่ได้จริง สับไม่รักษาคำพูด จวกรัฐควรรับฟังมากกว่าตั้งองครักษ์พิทักษ์นาย ท้า “ปู” ประกาศ “แม้ว” ไม่เกี่ยวจัดนโยบาย ฉะ ปชป.โมเม ยันไม่มี ส.ส.ภท.ลงชื่อไล่ “สุรพงษ์” พร้อมเปิดตู้ ปณ.รับร้องทุกข์
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรค ว่า ที่ประชุมมีมติกรณีการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค จะไม่อภิปรายเอง แต่ได้มอบหมายให้ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ เป็นผู้อภิปรายแทน โดยใช้เวลาอภิปรายไม่เกิน 30 นาที นอกจากนี้พรรคยังได้วางตัว ส.ส.ที่จะร่วมอภิปราย อีกจำนวน 9 คน ประกอบด้วย นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ส.ส.สุโขทัย น.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร ส.ส.ราชบุรี นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี นายมนู พุกประเสริฐ ส.ส.สุโขทัย นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ ส.ส.นครราชสีมา นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี และตน ทั้งนี้ พรรคได้เวลาในการอภิปรายเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที ทำให้ ส.ส.แต่ละคน จะมีเวลาอภิปราย ประมาณ คนละ 10-15 นาที
นายศุภชัย กล่าวว่า ในการอภิปรายจะเป็นการนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้กับรัฐบาล รวมถึงทวงถามนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงเอาไว้ที่ทำให้ได้รับชัยชนะถล่มทลาย เพราะจากการตรวจสอบ กลับพบว่า เมื่อนำมาเขียนเป็นนโยบายมีหลายเรื่องที่ไม่ตรงตามที่หาเสียงไว้ ซึ่งหากทำไม่ได้จริง จะสร้างความเสื่อมเสียแก่ภาพลักษณ์ ส.ส.เพราะเป็นการไม่รักษาคำพูด ที่พรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนล้นหลาม เพราะประชาชนให้ความเชื่อมั่นสูง ดังนั้น รัฐบาลจะต้องยืนยันถึงสิ่งที่จะดำเนินการให้กับประชาชน
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า เรื่องที่จะอภิปรายได้แบ่ง ส.ส.พูดตามแต่ละนโยบาย อาทิ การพูดถึงปัญหาหาสินค้าการเกษตร เรื่องการรับจำนำข้าวที่อาจส่งผลต่อการจัดทำงบประมาณแผ่นดิน นโยบายการแจกแท็บเล็ต ที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ว่าจะแจกให้กับเด็กที่ทุกคน แต่ต่อมากลับระบุว่า อาจจะให้ได้เฉพาะพื้นที่ที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเท่านั้น การแก้ปัญหาน้ำท่วม เรื่องการปกป้องสถาบัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทย เคยระบุจะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ แต่กลับตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายศุภชัย กล่าวว่า ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเตรียมตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีนั้น ตนมองว่า เป็นวัฒนธรรมในสภาที่ทำกันจนแยกแยะไม่ถูก และไม่มีความเหมาะสม โดยเฉพาะกรณีนี้เป็นการแถลงนโยบายการทำงานของรัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลควรจะรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอแนะต่างๆ มากกว่าการจัดตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเพื่ออภิปรายขุดคุ้ยการทำงานของรัฐบาลชุดก่อน เพราะเป็นคนละเรื่องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการอภิปรายจะมีการพูดพาดพิงถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายนโยบายของพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้อง และพรรคเพื่อไทยยังเคยหาเสียงอย่างเปิดเผยด้วยว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ดังนั้น ในการอภิปรายการพาดพิงถึงอดีตนายกฯอาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากทางพรรคเพื่อไทยจะประท้วงจากกรณีดังกล่าว ตนอยากเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศยืนยันต่อสภาไปเลยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนช่วยจัดทำนโยบายของพรรค ซึ่งในการอภิปรายจะเชื่อหรือไม่ ก็ค่อยว่ากันทีละประเด็นไป
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ร่วมลงชื่อถอดถอน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ออกจากตำแหน่งว่า พรรคยืนยันว่า ไม่เคยได้รับการติดต่อหรือพูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น และพรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีมติในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีการติดต่อเข้ามา คงต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพราะการดำเนินการใดๆ ของพรรคภูมิใจไทย ต้องผ่านในรูปของมติของพรรคเท่านั้น
นายศุภชัย ยังกล่าวถึงกรณีการเปิดตู้ไปรษณีย์รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน เพื่อเป็นช่องทางให้ความช่วยประชาชนผ่านทางกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขณะนี้ทางพรรคได้ดำเนินการเปิดตู้รับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้น ประชาชนที่จะร้องทุกข์กับพรรคภูมิใจไทย สามารถติดต่อมาได้ที่ ตู้ ปณ.99 จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ขณะเดียวกันพรรคจะจัดทำสติกเกอร์เพื่อแจกจ่ายและประชาสัมพันธ์ต่อไป