จำเลยแดงคดีกบฏ สุมหัวออกแถลงการณ์ยึดโมเดลอุดรฯประกันไพร่แดง กร้าวเดินหน้ากดดันศาลปล่อยลูกสมุนในพื้นที่ กทม.กว่า 30 คน และทั่วประเทศรวม 132 ชีวิต อย่างต่อเนื่อง จี้ใจดำ รบ.ปู เยียวยาแดงดับหัวละ 10 ล้านบาท เทียบไม่ได้กับงบประมาณที่ใช้ในการปราบปราม อุ้มหมู่บ้านเสื้อแดง ยกอุดมการณ์เป็นที่ตั้ง อ้างเพื่อความปรองดอง ไม่วายแขวะ อาจต้องล้างบางพันธมิตรฯ
วันนี้ (16 ส.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวภายหลังศาลให้ประกันตัวคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี ว่า ส.ส.กลุ่มคนเสื้อแดง อีก 12 คนอาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง มีข้อสรุปร่วมกันว่า จะเดินหน้าขอยื่นประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำต่างๆ ใน กทม.ประมาณ 30 คนต่อทันที โดยส่วนใหญ่เป็นคดีปลุกปั่น ยุยง สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ซึ่งอาจจะยื่นประกันได้ภายใน 1-2 วันนี้
สำหรับคนเสื้อแดงที่ติดอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศนั้น ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 132 คน ส่วนความคืบหน้าในการขอค่าเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553 รวมทั้งสิ้น 91 ราย ซึ่งจะรวมถึงคนเสื้อแดง ทหาร ตำรวจ และประชาชน รายละ 10 ล้านบาทนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล โดยควรจะตั้งคณะกรรมการเยียวยาขึ้นมากำหนดหลักเกณฑ์ ว่า ผู้เสียหาย รวมถึงผู้ประกอบการนั้นควรจะได้รับการเยียวยาเท่าไหร่ เพราะเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เนื่องจาก คอป.จะทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ต้องมีคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งขึ้นมาดูข้อกฎหมายและคดีความต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่า ค่าเยียวยารายละ 10 ล้านบาทนั้น เหมาะสมหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่อยากนำเรื่องตัวเลขมาเป็นตัวตั้ง แต่หากเทียบกับงบประมาณที่ใช้ในการปราบปรามประชาชนที่รัฐบาลชุดที่แล้วใช้ไปหลายพันล้านบาทโดยไม่มีการแจกแจงรายละเอียดแล้วนั้น ถือว่าเทียบไม่ได้กับงบประมาณที่จะนำมาชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเลย เงินจำนวนนี้ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับการดูแลประชาชนที่เสียชีวิต ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่สูงถึงรายละ 10 ล้านบาทนั้น ตนไม่อยากให้คิดว่าใครสู้เพื่อพรรค แต่เป็นเรื่องที่เราต้องเยียวยาประชาชนที่สู้เพื่อประชาธิปไตย เพราฉะนั้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนจะมีการเยียวยาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องแยกว่าไม่เกี่ยวกับความสำเร็จของพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะเข้าใจเป็นอย่างดี
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ไม่เห็นด้วยกับการตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งในเชิงอุดมการณ์ แต่เป็นการมองต่างมุมกันมากกว่า ความจริงแล้วหมู่บ้านคนเสื้อแดงนั้นเกิดขึ้นจากอุดมการณ์ที่เกิดขึ้นจากความคิดบริสุทธิ์ของประชาชน ซึ่งไม่ขัดต่อกฎหมาย ดังนั้น เราต้องเคารพซึ่งกันและกัน เพราะทุกฝ่ายก็มาจากการต่อสู้ ส่วนคนที่มองว่าหมู่บ้านคนเสื้อแดงขัดแย้งกับแนวทางปรองดองนั้น ถ้าหากมองแบบนั้นก็คงต้องเลิกทั้งเอเอสทีวี และเลิกกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยจึงจะปรองดอง สำหรับกรณีที่ นายขวัญชัย จะรวบรวมแกนนำคนเสื้อแดงในภาคอีสานเพื่อกำหนดทิศทางของคนเสื้อแดงใหม่นั้น ตนมองว่า ไม่มีปัญหา แต่ไม่เชื่อว่านายขวัญชัยจะพูดเช่นนั้น เราต่างก็เคารพความเห็นซึ่งกันและกัน