เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 เสร็จเรียบร้อยไปแล้วเมื่อค่ำวันที่ 8 ส.ค. สำหรับพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯคนที่ 28 และเป็นนายกฯหญิงคนแรกของไทย ท่ามกลางการชื่นชมยินดีของกลุ่มผู้สนับสนุน ซึ่งก็สมควรเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีที่ต้องสะดุดฟังก็คือคำสัญญาหลังจากนั้นว่า เธอจะเป็นนายกฯของคนทุกกลุ่มและ “สร้างสุขสลายทุกข์” เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน และที่สำคัญก็คือการ “ถวายความจงรักภักดี” รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างสุดความสามารถ ถือว่าเป็นคำกล่าวที่น่าชื่นชม
00 อย่างน้อยก็เป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงเรื่องการถวายพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี โดยเฉพาะในช่วงที่วันมหามงคลทั้งวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 12 สิงหามหาราชินี รวมไปถึง “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 7 รอบ” ซึ่งเป็นงานใหญ่อีกงานหนึ่งที่รออยู่ แม้ว่าใน “สคริปต์” ที่เธออ่านยังไม่ได้เน้นย้ำในเรื่อง “การปกป้องสถาบัน” ก็ตาม แต่เอาเถอะทุกอย่างมัน “พิสูจน์ด้วยการกระทำ” ทั้งสิ้น
00 คำพูดสวยหรูร้อยคำ ไม่สู้ลงมือทำ เพราะสิ่งที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ให้สัญญาหลังรับสนองพระบรมราชโองการ นัยหนึ่งมันก็เหมือนกับการ “ให้สัตย์สาบาน” ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ มันเป็น “พิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์” จริงจัง และที่บอกว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความสุขของทุกคน ก็ต้องรอดูกันไป ซึ่งด่านที่รอพิสูจน์ขั้นแรกก็คือการฟอร์มคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าว่าจะมีหน้าตาน่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะถ้าเริ่มต้นดี เกิดความเชื่อมั่น มันก็คลายความยุ่งยากไปได้เปลาะหนึ่งเหมือนกัน
00 ตามกำหนดการน่าจะชัดเจนภายในวันนี้( 9 ส.ค.) เนื่องจากจะมีการรวบรวมรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ แต่เท่าที่ฟังดูคร่าวจะมาจากคนนอก 4 คน จากพรรคร่วมฯ 4-5 คน อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องพิจารณากันก็คือความหมายของ “คนนอก” นั้นมันคืออะไรกันแน่ เพราะถ้าเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยคือไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็น่าจะใช่ แต่รับรองว่าต้องเป็นคนที่ “รับใช้ใกล้ชิด” พี่แม้ว-พจมาน นั้นก็น่าจะใช่เหมือนกัน
00 นาทีนี้สำหรับคนนอกพรรคเพื่อไทย แต่เป็น “คนในบ้าน” ทักษิณ-พจมาน ที่น่าจะชัวร์ในตำแหน่ง “ขุนคลัง” คนใหม่คงหนีไม่พ้น ธีระชัย ภูวนาทนรานุบาล เป็นแน่ เพราะด้วยบุคลิกลักษณะที่พร้อมทำตาม “ใบสั่ง” มันก็ถือว่าเป็นคุณสมบัติเหมาะสมอย่างยิ่งอยู่แล้ว
00 หากรายชื่อ ครม.ออกมาตามโผล่าสุดเมื่อวานนี้( 9 ส.ค.) ว่าจะให้ “ดร.ปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล มาเป็น รมว.ต่างประเทศ วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็นรมว.ศึกษาฯคนใหม่ ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เป็น รมช.พาณิชย์ รวมไปถึงตำแหน่งรมต.กระทรวงสำคัญอื่นๆ และภาพโดยรวมที่ออกมาถือว่า “น่าผิดหวัง” เบื้องต้นไม่น่าสร้างสุขสลายทุกข์ตามที่พูดเอาไว้เลย และเมื่อพิจารณารายชื่อทั้งหมดส่วนใหญ่จะแบบพวก “เด็กรับใช้” เสียมากกว่า ขณะที่ยอม “กลืนเลือด” ไปก่อนเห็นจะเป็น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ที่หลุดหมดทุกตำแหน่ง ล่าสุดไม่ยอมรับตำแหน่งรองนายกฯคงเห็นว่าเป็นตำแหน่งลอยไม่อำนาจบริหารรอเข้ามาช่วง “ก๊อกสอง” ดีกว่า
00 สำหรับข้าราชการบางคนเวลานี้คงอยากอยู่เงียบๆไม่อยากให้เป็นข่าว แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องถูกจับตามองว่าจะถูก “เด้ง” เมื่อใด หากนับเป็นรายหัวก็ต้องเริ่มจาก ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ส่วนสาเหตุไม่ต้องอธิบายรู้กันดีอยู่แล้ว รายต่อไปที่ต้องหนาวๆร้อนๆก็คือ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.แม้ว่ารายนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการทำงาน แต่บังเอิญไปขวางเส้นทางเติบโตของ “พี่เมีย” เสี่ยแม้ว แถมยังอยู่ในช่วงต้องเร่งสปีด เนื่องจากจะเกษียณในปีหน้าเสียด้วย ดังนั้นก็ต้องดันให้ถึงเก้าอี้ ผบ.ตร.ให้ได้ แต่เพื่อความเหมาะสมกรณีหลังอาจมีการตอบแทนตำแหน่งให้พอสมราคากันบ้าง ส่วนจะเป็นตำแหน่งอะไรนั้น จับตาให้ดีก็แล้วกัน !!