โฆษก ทบ.ออกโรงชี้แจงแทน ผบ.ทบ.ปัดไม่ได้ใช้อารมณ์โต้สื่อ แต่เพื่อปกป้องกองทัพในฐานะผู้นำ จึงต้องการสื่อข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับรู้ อ้างบุคลิกอาจจะดูเด็ดเดี่ยว แต่โดยพื้นฐานจิตใจโอบอ้อมอารี ด้าน ผบ.สส.ปฏิเสธวิพากษ์ รมว.กห.-นายกฯหญิง ยันพร้อมเดินตามนโยบาย และไม่เลือกนาย
วันนี้ (29 ก.ค.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีที่มีการมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก แสดงอารมณ์ไม่พอใจสื่อมวลชนในการชี้แจงเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่มีการเชื่อมโยงกับการทุจริตในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ว่า ผบ.ทบ.แสดงความเป็นห่วงใน 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและความจริงต่างๆ ต่อประชาชน และเป็นห่วงต่อข้อคิดเห็นทั้งหลาย โดยเฉพาะที่มีการมองว่า ท่านไม่ยอมรับข้อมูลข้อเท็จจริง แต่ความจริงท่านให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั้งหมด และต้องการสื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะท่านเป็นห่วงว่า ข่าวสารที่ออกมาอาจจะคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ซึ่งสื่อจะสังเกตได้ว่า ผบ.ทบ.พยายามตอบคำถามสื่อมวลชนทุกคำถาม เรื่องที่ 2 คือ ขณะนี้ ผบ.ทบ.ได้สั่งการไปยังหน่วยแพทย์ต่างๆ ในสังกัดกองทัพบก และค่ายต่างๆในพื้นที่ ดูแลขวัญกำลังใจและสุขภาพของผู้บาดเจ็บ และญาติผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก รวมถึงดูแลนักบินของกองทัพบกและศูนย์การบิน เพื่อให้นักบินเกิดความมั่นใจว่า ร่างกายของนักบินมีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจได้
“ผบ.ทบ.ไม่ได้มีอารมณ์ในการชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ ผบ.ทบ.ให้ความสำคัญกับประชาชนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ ผบ.ทบ.เป็นคนรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทุกฝ่ายและในฐานะที่ ผบ.ทบ.เป็นหัวหน้าหน่วยของกองทัพบก เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นที่ส่งผลกระทบเสียต่อกองทัพ ท่านก็จำเป็นต้องออกมาชี้แจงเพื่อให้เกิดความถูกต้องและชัดเจน ซึ่งท่านให้ความสำคัญและเป็นห่วง หากประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นเท็จจะทำให้กองทัพได้รับความเสียหาย แม้บุคลิกของผบ.ทบ.จะดูเหมือนเป็นคนเด็ดเดี่ยว เฉียบขาด แต่ทหารทุกคนรู้ว่า โดยพื้นฐานจิตใจโอบอ้อมอารี รับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชา และเป็นห่วงลูกน้องทุกคนอย่างที่สุด” โฆษกกองทัพบก กล่าว
ด้าน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ว่า ไม่ได้คิดเรื่องนี้ รัฐมนตรีกลาโหมมีหน้าที่บริหารงานเชิงนโยบาย ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในรายละเอียดของกองทัพ ส่วนหากเป็นอดีตนายทหารจะมีความเข้าใจงานของกองทัพมากขึ้นหรือไม่นั้น เห็นว่า งานของกองทัพไม่ยาก และส่วนตัวก็ไม่เลือกนาย
“ผมไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงน้องๆ ในกองทัพ เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ ผ่านการบริหารองค์กรในระดับต่างๆ มาแล้ว สิ่งสำคัญคือ ถ้าเราร่วมกันทำงาน ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก ประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า ประชาชนก็มีความสุข” พล.อ.ทรงกิตติ กล่าว พร้อมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีหญิง โดยให้เหตุผลว่า ไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ผู้บังคับบัญชา