ผู้สมัครหนองจอก ไข่แม้ว ตะแบงยื่นคำร้อง กกต.แก้ต่างคดี ทบ.ฟ้องฐานขัดขวางการปฏิบัติชุด ฉก.315 ปราบปรามยาเสพติด อ้อนไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล และไม่ประสงค์ยุ่งเกี่ยวกองทัพ โบ้ย “เสธ.ไก่อู” ต้องการทำลายชื่อเสียงเกียรติยศ หวังดิสเครดิตยกระดับเพื่อเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 19 หนองจอก กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งต่อ กกต.ผ่านศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ศอส.) ว่า การมายื่นเรื่องร้องเรียนในครั้งนี้ไม่ประสงค์ที่จะยุ่งเกี่ยวกับผู้มีอำนาจในกองทัพ แต่เป็นการทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงเกียรติยศของตนเอง หลังถูกกล่าวหาผ่านสื่อมวลชนจาก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตน เนื่องจากใช้อาวุธข่มขู่ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการโครงการปราบปรามยาเสพติดตามยุทธศาสตร์ (ฉก.ปส.315) ขณะลงพื้นที่ตรวจค้นยาเสพติดในเขตหนองจอก แต่ พล.อ.สรรเสริญ ก็ยังไม่ได้ดำเนินการแจ้งความตนตามที่ระบุไว้แต่อย่างใดนั้น ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏขึ้นแล้ว ตนในฐานะประชาชนคนหนึ่งจำเป็นต้องออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และชี้แจงข้อเท็จจริง โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ต้องการยุ่งเกี่ยวกับกองทัพ หรือต้องการให้เรื่องดังกล่าวกระทบถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แต่อย่างใด
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การมายื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อต้องการให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน พ.อ.สรรเสริญ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ตามมาตรา 53(5) ในเรื่องหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ซึ่งมีโทษตามมาตรา 137 สามารถเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปีได้
“ผมยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาทำให้กองทัพเสื่อมเสีย แต่ขอร้องในช่วงของการเลือกตั้ง ขอให้ต่างฝ่ายต่างหยุดพูด ผมก็จะหยุดพูด และขอให้ พ.อ.สรรเสริญ หยุดพูดด้วย ต่างคนทำหน้าที่ของตนเอง เพราะการพูดในลักษณะที่ไม่มีข้อเท็จจริงในช่วงหาเสียงเลือกตั้งจะทำให้ประชาชนมองผมว่าเป็นนักเลง แล้วใครจะเลือกผม ดังนั้นผมต้องปกป้องสิทธิและชื่อเสียง” นายไพโรจน์ กล่าว