xs
xsm
sm
md
lg

รับรอง ส.ส.เพิ่ม 94 คน แขวน “จตุพร”-แจก 2 เหลือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จตุพร พรหมพันธุ์ (แฟ้มภาพ)
ที่ประชุม กกต.มีมติรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เพิ่มอีก 94 คน แขวน “ไอ้ตู่” คนเดียว ทำยอด ส.ส.เข้าสภา 496 คน พร้อมสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ เขต 3 สุโขทัย และ เขต 2 หนองคาย



วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เพิ่มเติมอีก 94 คน ในวันนี้ ทำให้มีจำนวน ส.ส.เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 496 คน โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง และ นางพรทิวา นาคาศัย รวมอยู่ด้วย สำหรับนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำไม่ได้รับการพิจารณาให้รับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.นอกจากนี้ กกต.ยังได้มีคำสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่เขต 1 จังหวัดยะลาด้วย

นอกจากนั้น กกต.ยังมีมติสั่งจัดการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) 2 เขต คือ ที่เขต 3 จ.สุโขทัย ซึ่ง นายจักรวาล ชัยวิรัตนุกูล จากพรรคภูมิใจไทย ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 และ หนองคาย เขต 2 ซึ่งมี นายสมคิด บาลไธสง จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 จนถึงขณะนี้ กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.เกิน 95% แล้ว สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาคนใหม่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อรว่า วานนี้ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวภายหลังการประชุมกกต.เพื่อพิจารณาประกาศรับรองผลนานกว่า 7 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในรอบที่ 4 จำนวน 94 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.เขต 1 ชัยนาท พรรคภูมิใจไทย และน.ส.พัชรินทร์ มั่นปาน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปไตยใหม่ โดยยกเว้นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เพียงคนเดียวที่กกต.มีมติ 3 ต่อ2 ยังไม่ประกาศรับรอง เนื่องจากเห็นว่ายังมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย กรณีไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. จึงทำให้ขาดความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งให้อนุกรรมการไต่สวนไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเพราะที่ผ่านมาไม่ได้เสนอความเห็นต่อกกต.ในประเด็นนี้

“เรื่องนี้เป็นการขัดกันระหว่างรัฐธรรมนูญกับพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้อนุกรรมการไปตรวจสอบเพิ่มเติมในแง่ของข้อกฎหมาย ซึ่งกกต.ก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าอนุกรรมการต้องดำเนินการให้เสร็จเมื่อใด และกกต.ก็ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าจะหยิบเรื่องขึ้นมาพิจารณาอีกเมื่อใด แต่ขอยืนยันว่ากกต.ทำเรื่องนี้ดีที่สุดแล้ว”

นางสดศรี ยังยอมรับว่า ว่าที่ส.ส.ที่กกต.ประกาศรับรองในรอบที่ 4 นี้ไม่มีใครที่ที่ไม่มีเรื่องร้องคัดค้าน และการที่กฎหมายให้กกต.ประกาศรับรองไปก่อนร้อยละ 95 เพื่อให้เปิดประชุมสภาได้ แต่กกต.กลับประกาศรับรองที่เหลือทั้งหมดก็เชื่อคงไม่ทำให้กกต.ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการทำงาน เพราะเก็บไว้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรเนื่องจากฝ่ายสืบสวนสอบสวนเสนอมาว่าหลังวันเลือกตั้งจนถึงวันที่ 11 ก.ค. มีการร้องเรียนเข้ามาถึง 193 เรื่องและจากวันที่ 11 ก.ค.จนถึงปัจจุบันก็มีการร้องคัดค้านเข้ามาอีกรวมเป็น 500 เรื่อง ซึ่งไม่มีทางที่กกต.จะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 ส.ค. นี้ได้ อีกทั้งมีการกำหนดวันที่จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกแล้ว เมื่อพิจารณาแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เรื่องร้องคัดค้านต่างๆ ที่เหลือจะได้ให้ศาลฎีกาช่วยกลั่นกรองอีกทีหนึ่ง

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้กกต.ก็จะยังพิจารณาสำนวนร้องคัดค้านที่ยังคงเหลืออยู่โดยจะเริ่มในวันพรุ่งนี้เลย ( 28 ก.ค.)

แหล่งข่าวจากกกต.เปิดเผยว่า สำหรับการลงมติในกรณีของนายจตุพรนั้น ที่ประชุมใช้เวลาในการถกเถียงเรื่องดังกล่าวค่อนข้างมาก โดยกกต.ฝ่ายเสียงข้างมาก3 เสียง ประกอบด้วยนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท และนางสดศรี สัตยธรรม เห็นว่า ควรต้องมีการพิจารณาในข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อน ซึ่งมีการเสนอกันว่า ควรมีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ และถ้าจะส่งจำเป็นต้องประกาศรับรองไปก่อนหรือไม่ หากใช้แนวทางนี้ก็อาจทำให้กกต.เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะความปรากฎอยู่แล้วว่าในวันเลือกตั้งนายจตุพร ไม่ได้ไปใช้สิทธิ ซึ่งก็ถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรค ขณะที่ฝ่ายเสียงข้างน้อย 2 เสียง ประกอบด้วย นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น และนายสมชัย จึงประเสริฐ เห็นว่าควรประกาศรับรองไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถนำเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ อีกทั้ง กกต.จะเอาอำนาจใดมาสั่งไม่ประกาศรับรองเนื่องจากรณีนี้ไม่ใช่เป็นการทุจริตเลือกตั้ง

สำหรับสำนวนร้องคัดค้านส.ส. ที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่ากกต.อาจจะไม่ประกาศรับรองนั้น แต่ที่สุดกกต.ก็มีมติประกาศรับรอง อาทิ นายณัฐวุฒิ และนายพายัพ กกต.มีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 ให้รับรอง โดยนายอภิชาต ลงมติไม่รับรอง ส่วนน.ส. พัชรินทร์ มั่นปาน กกต.มีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 โดย 2 เสียง คือนางสดศรี และนายสมชัย ลงมติไม่รับรอง ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย น.ส.จารุวรรณ กุลดิลก ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประกาศรับรอง

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งครั้งทำให้มีส.ส.ที่กกต.ประกาศรับรองแล้วทั้งสิ้น 496 คน โดยเหลือการเลือกตั้งใหม่ใน 2 เขตเลือกตั้ง คือเขต 3 สุโขทัย ที่จักรวาล ชัยวิรัตนุกูล จากพรรคภูมิใจไทย ได้รับเลือกตั้ง เขต 2 หนองคาย ที่สมคิด บานไธสง พรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้ง และมีการสั่งนับคะแนนใหม่ในเขต 2 ยะลา ที่นายอับดุลการิม เด็งระกีนา จากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้ง ที่กกต.สั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งและนับคะแนนใหม่ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ และกรณีของนายจตุพร
กำลังโหลดความคิดเห็น