เพื่อไทยอบรม 83 ส.ส.ใหม่ “ชายจืด” ควงพวกโดนแบนติวเข้มเพียบ “ยิ่งลักษณ์” เน้นอย่าทิ้งประชาชน เข้าประชุมสภาดันกฎหมาย “เด็จพี่” เผย กก.บห.ให้ “ยงยุทธ-ปู” คัด ครม.-ประธานสภาฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาาณ์
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย ได้จัดประชุมอบรม ส.ส.ใหม่ของพรรคจำนวนทั้งสิ้น 83 คน โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรคร่วมเป็นวิทยากร เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายวิทยา บูรณศิริ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอดิศร เพียงเกษ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนายจเร พันธุ์เปรื่อง รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ สำหรับ ส.ส.ใหม่ที่เข้าร่วมประชุมอาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายคณวัฒน์ วศินสังวร นายก่อแก้ว พิกุลทอง น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อย่างไรก็ตาม ในสมุดลงทะเบียน ส.ส.ใหม่ ไม่มีชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นหนึ่งใน ส.ส.ใหม่ จึงทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเขียนชื่อด้วยตัวเองในลำดับที่ 83 ซึ่งเป็นลำดับท้ายสุด
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวระหว่างสัมมนา ส.ส.ใหม่ของพรรคเพื่อไทยว่า ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้โอกาสเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเกินครึ่ง และเปิดโอกาสให้คนใหม่เข้ามาร่วมทำงาน เป็น ส.ส.ใหม่ 83 คน นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้เน้นถึงบทบาทหน้าที่ของ ส.ส.ใหม่เช่น หน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ ต้องลงพื้นที่พบประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งประชาชน เพราะประชาชนส่งเรามาหนหนึ่งตอนเลือกตั้ง ฉะนั้น หน้าที่ของ ส.ส.คือการกลับไปหาประชาชน และการทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกนิติบัญญัติ ด้วยการทำหน้าที่เข้าประชุมสภาเพื่อเป็นปากเสียงแทนประชาชน และผลักดันกฎหมายต่างๆ เพื่อประชาชนทั้งประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงหน้าที่ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยต้องร่วมประชุมพรรคเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อนำข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ นำเสนอต่อพรรคเพื่อผลักดันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาต่อไป
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยว่า คณะกรรมการได้มีมติให้นายยงยุทธ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคณะกรรมการคัดเลือกตำแหน่งรัฐมนตรีและการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ในส่วนของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นการพิจารณาของนายยงยุทธ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งก็ได้มีบุคคลเอาไว้ในใจบ้างแล้ว ในส่วนของกฎหมายหลายๆ ฉบับที่ยังค้างอยู่ในที่ประชุมสภา พรรคเพื่อไทยก็จะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาต่อเพื่อไม่ให้กฎหมายเหล่านั้นตกไป