xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ชี้เลขาฯ ปชป.ไม่จำเป็นต้องคนใต้ ปัด “เทือก” ล็อบบี้หนุน “หล่อเล็ก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปัด “สุเทพ” ล็อบบี้เด็กใต้เลือก “อภิรักษ์” นั่งเลขาฯ พรรค ชี้แค่ปรามอย่าเคลื่อนไหว ยันเก้าอี้ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ชี้ถ้าไม่ใช่คนใต้ก็จะมีทางเลือกมากขึ้น โยนที่ประชุมใหญ่ลงมติ ชี้การเปลี่ยนแปลงในพรรคเป็นเรื่องท้าทาย

วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วานนี้ (24 ก.ค.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้เรียก ส.ส.ในภาคใต้ไปพบที่บ้านพักและขอให้เลือกนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ (ปชป.) ว่า คงไม่ใช่

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ใช่แล้ว ประเด็นคืออะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบคือนายสุเทพ ได้พบปะกับทาง ส.ส.ภาคใต้และบอกว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องมีการเคลื่อนไหวในเรื่องของเลขาธิการพรรคและคงจะพูดเพื่อทำความเข้าใจว่าเลขาธิการพรรคไม่จำเป็นต้องมาจากทางภาคใต้ ส่วนชื่อนั้นก็มีการพูดกันไปเยอะว่าจะมาจากหลายชื่อด้วยกัน

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการวางคนที่มาขัดตาทัพ เพื่อรอให้นายอภิรักษ์หลุดจากคดีรถดับเพลิงก่อน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้มีข้อยุติในเรื่องนี้ เมื่อถามต่อว่า ในใจของนายกรัฐมนตรีเอง ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้หรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า ยังไม่มีข้อยุติในเรื่องนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ เรื่องการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติเป็นเรื่องของสมาชิกทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นที่จะหารือกัน มีเพียงแต่นายสุเทพคนเดียวเท่านั้นที่แสดงเจตนาชัดเจนว่าจะไม่ขอรับตำแหน่ง

เมื่อถามว่า เมื่อมีการบอกว่าไม่จำกัดว่าจำเป็นต้องเป็นคนใต้ แสดงว่านายอภิรักษ์ก็มีโอกาสที่จะชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรค นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนมีโอกาสหมดและตนขอขอบคุณหลายๆ ท่าน ทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายสุเทพเอง ที่ออกมาพูดตรงนี้ เพราะจะทำให้พรรคได้สามารถที่จะดูทางเลือกต่างๆ ได้กว้างขวางขึ้น อย่างไรก็ตาม การเสนอชื่อต้อง เป็นไปตามข้อบังคับว่าต้องมี 2 รายชื่อ

เมื่อถามว่า คนที่มีคดีติดตัว จะทำให้เป็นข้อด้อยในการแคนดิเดตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนก็ต้องดูทั้งหมด เพราะทุกคนมีทั้งจุดแข็งจุดอ่อน และดูว่ามีความเหมาะสมอย่างไร ซึ่งต้องว่ากันไป ทั้งนี้ กระบวนการของพรรคประชาธิปัตย์ที่ประชุมใหญ่จะเป็นผู้ลงมติ ฉะนั้น ตนเชื่อว่าสมาชิกทุกคนที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง เขาก็ต้องดูแนวทาง ดูคุณสมบัติของบุคคลมาเป็นอย่างดี แม้กระทั่ง เรื่องการเสนอชื่อ ซึ่งเมื่อหากมีการเสนอชื่อเข้ามา แล้วมีการถอนตัว ข้อบังคับก็ยังบอกว่าต้องลงมติอยู่ดี เพราะว่าถ้าเกิดเหลือคนเดียวแล้วได้เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าที่ประชุมใหญ่ไม่รับรอง ฉะนั้น สมาชิกพรรคทุกคนก็สบายใจว่าที่ประชุมใหญ่จะมีอำนาจในการกำหนดแนวทาง ซึ่งเราต้องเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมใหญ่นั้น จะเลือกแนวทางที่เหมาะสม

เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในครั้งนี้ จะทำให้ภาพของพรรคเป็นอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดเรื่องภาพ ตนคิดเรื่องการทำงานต่อไป เพราะถือว่าเป็นการทำงานที่ท้าทาย การทำงานท้าทายเนื่องจากว่าเราแพ้การเลือกตั้งมา คนในพรรคก็ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่การพลิกผลการเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยที่เราทราบดีว่าทางคู่แข่งนั้นได้ใช้วิธีการทุกรูปแบบในการทำงานทางการเมือง ดังนั้น วันนี้มันไม่ได้แข่งกับพรรคการเมืองอย่างเดียว มันมีเรื่องมวลชนจัดตั้ง มีเรื่องสื่อเทียม เรื่องสื่อแท้ ที่กำลังจะกลายเป็นสื่อเทียม และยังมีอีกหลายเรื่อง

เมื่อถามว่า แล้วอะไรที่จะทำให้พลิกได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ทางพรรคจะต้องเป็นผู้กำหนดแนวทาง เมื่อถามต่อว่า ตำแหน่งหลักที่จะเปลี่ยน นอกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคแล้ว ยังมีตำแหน่งอื่นที่ต้องปรับอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่สมาชิกพรรค
กำลังโหลดความคิดเห็น