ส.ส.ปชป.แจงหนี้สิน 119 ล้านบาทไม่ใช่เป็นของตนเอง เป็นแค่ผู้ค้ำประกัน จนถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง มั่นใจแจงปลดหนี้ได้เพราะขายทอดตลาดทรัพย์สินก่อน “มาร์ค” นั่งเก้าอี้นายกฯ
วันนี้ (20 ก.ค.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวชี้แจงกรณีหนี้สินจำนวน 119 ล้านบาท ว่าไม่ใช่หนี้ของตัวเองและไม่ได้เป็นคนทำสัญญากู้หนี้ยืมสินมา แต่เป็นหนี้บริษัทของครอบครัวโดยตนเป็นค้ำประกัน และใช้ที่ดินทั้งใน กทม. ชายทะเลและห้องชุดเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันแต่ไม่สามารถแจงในรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เพราะเป็นทรัพย์สินของบริษัท แต่ตนได้ทำบันทึกในรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่ามีหนี้ 119 ล้านบาท ทำให้มีคนบางกลุ่มได้หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีว่าเป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่ควรอยู่ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเนื่องจากอาจจะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
นายศิริโชคกล่าวว่า ต่อมาบริษัทถูกฟ้องล้มละลาย ตนในฐานะผู้ค้ำประกันได้เข้าไปเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ โดยหนี้ส่วนใหญ่เป็นของกองทุนรวมไทย รีสตรัคเจอริ่ง ที่ธนาคารเกียรตินาคิน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และมีลูกเขยอยู่ในพรรคเพื่อไทยด้วย โดยได้ทรัพย์สินออกมาขายทอดตลาดให้บุคคลภายนอกเพื่อเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ภาระในการค้ำประกันก็หมดไป ทั้งนี้ตนได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2551 ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มารับตำแหน่งในเดือน ธ.ค. 2551 ต้องขอตั้งคำถามกับคนที่พยายามบอกว่าตนอยู่ 3 ปีแล้วเสกหรือปลดหนี้ให้หายไปได้ ทั้งๆ ที่ตนเข้ามาเป็น ส.ส.เดือน ม.ค.ปี 2551 นั้นไม่เป็นความจริง และทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าตนได้ประโยชน์จากการที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาล