อดีต ส.ว.ประสาร ในฐานะอนุ กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภา จวก นโยบายถมอ่าวไทย 3 แสนไร่ เพื่อสร้างเมื่องใหม่ของพรรคเพื่อไทย เป็นความคิดที่วิปริต ทำลายระบบนิเวศ-วิถีชีวิตมหาศาล แถมทำลายอาชีพประมง เชื่อ เป็นวิธี “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ที่เคยถูกชาวบ้าน และนักวิชาการคัดค้าน เช่น โครงการขุดเลนตมมาถมกลางทะเลสาบสงขลา จนล้มเหลวมาแล้ว
วันนี้ (18 ก.ค.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ อนุกรรมาธิการธรรมาภิบาลด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวถึงนโยบายถมทะเล 3 แสนไร่ ที่บริเวณอ่าวไทย เพื่อสร้างเมืองใหม่ของพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นความคิดวิปริต เนื่องจากต่างประเทศที่ถมทะเลนั้น มีระบบนิเวศที่แตกต่างจากอ่าวไทยอย่างสิ้นเชิง เช่น สิงคโปร์ และ โอซากา ของญี่ปุ่นเป็นทะเลลึก ไม่มีอ่าวล้อมรอบ ขณะที่เกาะปาล์มเทียมที่ดูไบ เป็นทะเลเปิด ไม่มีชายฝั่ง แต่อ่าวไทยรูปเป็นรูป ก.มีระบบนิเวศสมบูรณ์ มีป่าชายเลน และพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetland) อันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน
นายประสาร กล่าวว่า ค่าถมตารางเมตรละ 1.25 หมื่นบาท สำหรับถมเป็นพื้นที่ 3 แสนไร่ ที่อ้างว่า จะได้เงินราว 2 ล้านล้านบาท ขอถามว่า จะเอาดินทรายมาจากไหนแถมทำลายอาชีพประมงของคนหลายจังหวัดรอบอ่าวไทย และกระแสคลื่นสะท้อนกลับจะสาดซัดชายฝั่งย่อยยับไปอีก น้ำที่ขึ้นลงตามธรรมชาติจะวิบัติหมด กุ้งปลาจะหลงทิศ สัตว์น้ำจะอยู่ไม่ได้ เพราะถูกเขื่อนและเกาะจำกัดการเคลื่อนไหว น้ำในแม่น้ำสามสายก็จะเน่าเสียไปทั้งหมด มูลค่าเหล่านี้คิดเป็นตัวเงินได้อย่างไร ที่สำคัญคือ ไม่เคยไปถามประชาชน ว่า จะเอาด้วยหรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง ได้รับรองสิทธิชุมชนไว้อย่างแข็งขัน โครงการใหญ่ขนาดนี้ มีความรุนแรงถึงขั้นต้องทำอีไอเอ และเอชไอเอ และต้องเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อม และยังต้องไปแก้กฎหมายที่ดิน กฎหมายผังเมือง กฎหมายอื่นๆ อีกหลายฉบับ
“สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เคยจะทำโครงการขุดเลนตมมาถมเป็นเกาะกลางทะเลสาบสงขลา เพื่อสร้างศูนย์บันเทิงครบวงจรโดยไม่เข้าใจระบบนิเวศทะเลสาบ ผลที่สุดก็ม้วนเสื่อกลับไป ไม่สามารถเอาชนะเสียงคัดค้านของชาวบ้านและนักวิชาการได้ กับโครงการอภิมหาวินาศกรรมทะเลไทยครั้งนี้ หากเป็นจริงได้ ก็จะเป็นกรรมของประเทศอีกครั้งหนึ่ง” นายประสาร กล่าว