ผ่านการเลือกตั้งมาได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ “ครม.ปูแดง” ยังเดินหน้าไม่ได้ถอยหลังไม่เป็น เพราะติดบ่วง กกต.ที่ยังไม่รับรองสถานะ ส.ส.ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมกับพลพรรคเสื้อแดงที่อยู่ในบัญชีรายชื่ออีกนับสิบคน
ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรนัก ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของไทยที่พี่ชายหนีคุกภูมิใจเสนอ กำลังถูกพี่ชายปล้นศักดิ์ศรีความเป็นผู้นำประเทศไปจนเธอไม่มีค่าและความหมายอะไรในสายตาของคนไทยและนานาชาติ
นอกจากมีหน้าที่เป็นหุ่นเชิดให้พี่ชาย โดยมีเป้าหมายไปสู่การนิรโทษกรรมคืนทรัพย์สินที่โกงชาติบ้านเมืองไปให้คืนสู่กระเป๋าทักษิณและเครือญาติในตระกูลชินวัตรเท่านั้น
“ยิ่งลักษณ์” จึงเข้าใกล้ความเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อญาติมิใช่เพื่อชาติ
ภาพสะท้อนความจริงเหล่านี้จะเป็นตัวกัดกร่อนและทำลายยิ่งลักษณ์ให้ดูด้อยค่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินแม้อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของประเทศไทยก็ไม่มีผลทำให้สง่าราศีของเธอเพิ่มขึ้น เพราะเธอก็ยังเป็นได้แค่ “ยิ่งลักษณ์” น้องสาวที่ต้องทำตามคำสั่งของทักษิณผู้เป็นพี่ชายหนีคุกจน
ในที่สุดก็จะกลายเป็น “ยิ่งเละ” หรือ “ยิ่งเลอะ” ในเร็ววันนี้
ดูกันง่ายๆ แค่การเคลื่อนไหวของปลาไหลเฒ่าอย่าง เตี้ยห้าสั้น บรรหาร ศิลปอาชา ยังขอเป็นปลาไหลไม่มุดรูปู แต่ไหลรื่นไปมุดรูทวาร ทักษิณ ชินวัตร ที่บรูไนแทน
ใครเป็นคนจัดโผ ครม.ตัวจริงก็เห็นกันอยู่ จะมาจีบปากจีบคอปฏิเสธว่า เป็นการพูดคุยเรื่องส่วนตัวนั้น เห็นจะไม่มีใครเชื่อเครดิตของว่าที่นายกรัฐมนตรีปูแดง-ยิ่งเละ เพราะแม้แต่เตี้ยห้าสั้นที่ว่าพลิกลิ้นพลิ้วไหวยากหาตัวจับ ก็ยังหลุดให้ผู้คนจับได้ว่า โกหกประชาชน
ในขณะที่ปากแลบลิ้นแผล็บๆ นัยน์ตากลิ้งกลอกบอกคุยแต่เรื่องส่วนตัว หากคำพูดที่หลุดออกมาว่า ไม่ได้ขอ 5 รัฐมนตรี เพราะมีส.ส.แค่ 19 เสียงได้ 3 ตำแหน่งก็บุญแล้วนั้น เป็นการเปลือยตัวตนให้เห็นว่าคนจัด ครม.ตัวจริงของชาติไทยพัฒนาคือ บรรหาร
คนตัดสินใจวางครม.ของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ “ยิ่งลักษณ์” ที่ยืนยันเสียงหนักแน่นแต่ขาสั่นว่า “ครม.จัดในไทย” ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่ามันจัดโดยนักโทษหนีคดีอยู่แดนไกลต่างหาก
ไม่ว่าจเป็นดูไบ บรูไน หรือฮ่องกง ก็เป็นพลเมืองมอนเตรเนโกรเป็นคนจัดตั้งรัฐบาลประเทศไทย จะมีอะไรน่าเศร้าสำหรับบ้านเมืองนี้เท่ากับสภาพที่เป็นอยู่ว่า คนไทยกำลังจะได้ “ครม.ห้องกรง” มาบริหารประเทศ โดยการเอื้อเฟื้อจากนักโทษชายทักษิณ
ที่น่าสนใจจากนี้เป็นต้นไป คือความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์กับอำมาตย์และทหารที่ ทักษิณปลุกให้เป็นคู่กรณีเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดง สร้างความเกลียดปลูกฝังความแค้นบ่มเพาะความชิงชังมานานหลายปีจะเป็นอย่างไร
จากท่าทีที่ปรากฎดูเหมือน “ยิ่งลักษณ์-ยิ่งเละ” จะเลือกทำตามแผนของพี่ชายหนีคุกคือ รักษาอำนาจด้วยการกราบกรานอำมาตย์ประนีประนอมกองทัพ
นั่นเท่ากับ เป็นการหันหลังให้กับคนเสื้อแดงซึ่งกำลังจะถูกพรรคเพื่อไทยสลัดทิ้ง ลอกคราบสีแดงออกใส่สูทกลับเข้าสู่ระบบ จนลิ้นจุกปากไม่มีใครทวงถามถึงความยุติธรรมให้กับความตาย 91 ศพ ที่กำลังถูกทักษิณและพวกเหยียบขึ้นสู่อำนาจ
เสือกระดาษ
ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรนัก ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ของไทยที่พี่ชายหนีคุกภูมิใจเสนอ กำลังถูกพี่ชายปล้นศักดิ์ศรีความเป็นผู้นำประเทศไปจนเธอไม่มีค่าและความหมายอะไรในสายตาของคนไทยและนานาชาติ
นอกจากมีหน้าที่เป็นหุ่นเชิดให้พี่ชาย โดยมีเป้าหมายไปสู่การนิรโทษกรรมคืนทรัพย์สินที่โกงชาติบ้านเมืองไปให้คืนสู่กระเป๋าทักษิณและเครือญาติในตระกูลชินวัตรเท่านั้น
“ยิ่งลักษณ์” จึงเข้าใกล้ความเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อญาติมิใช่เพื่อชาติ
ภาพสะท้อนความจริงเหล่านี้จะเป็นตัวกัดกร่อนและทำลายยิ่งลักษณ์ให้ดูด้อยค่าต่ำเตี้ยเรี่ยดินแม้อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของประเทศไทยก็ไม่มีผลทำให้สง่าราศีของเธอเพิ่มขึ้น เพราะเธอก็ยังเป็นได้แค่ “ยิ่งลักษณ์” น้องสาวที่ต้องทำตามคำสั่งของทักษิณผู้เป็นพี่ชายหนีคุกจน
ในที่สุดก็จะกลายเป็น “ยิ่งเละ” หรือ “ยิ่งเลอะ” ในเร็ววันนี้
ดูกันง่ายๆ แค่การเคลื่อนไหวของปลาไหลเฒ่าอย่าง เตี้ยห้าสั้น บรรหาร ศิลปอาชา ยังขอเป็นปลาไหลไม่มุดรูปู แต่ไหลรื่นไปมุดรูทวาร ทักษิณ ชินวัตร ที่บรูไนแทน
ใครเป็นคนจัดโผ ครม.ตัวจริงก็เห็นกันอยู่ จะมาจีบปากจีบคอปฏิเสธว่า เป็นการพูดคุยเรื่องส่วนตัวนั้น เห็นจะไม่มีใครเชื่อเครดิตของว่าที่นายกรัฐมนตรีปูแดง-ยิ่งเละ เพราะแม้แต่เตี้ยห้าสั้นที่ว่าพลิกลิ้นพลิ้วไหวยากหาตัวจับ ก็ยังหลุดให้ผู้คนจับได้ว่า โกหกประชาชน
ในขณะที่ปากแลบลิ้นแผล็บๆ นัยน์ตากลิ้งกลอกบอกคุยแต่เรื่องส่วนตัว หากคำพูดที่หลุดออกมาว่า ไม่ได้ขอ 5 รัฐมนตรี เพราะมีส.ส.แค่ 19 เสียงได้ 3 ตำแหน่งก็บุญแล้วนั้น เป็นการเปลือยตัวตนให้เห็นว่าคนจัด ครม.ตัวจริงของชาติไทยพัฒนาคือ บรรหาร
คนตัดสินใจวางครม.ของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ “ยิ่งลักษณ์” ที่ยืนยันเสียงหนักแน่นแต่ขาสั่นว่า “ครม.จัดในไทย” ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่ามันจัดโดยนักโทษหนีคดีอยู่แดนไกลต่างหาก
ไม่ว่าจเป็นดูไบ บรูไน หรือฮ่องกง ก็เป็นพลเมืองมอนเตรเนโกรเป็นคนจัดตั้งรัฐบาลประเทศไทย จะมีอะไรน่าเศร้าสำหรับบ้านเมืองนี้เท่ากับสภาพที่เป็นอยู่ว่า คนไทยกำลังจะได้ “ครม.ห้องกรง” มาบริหารประเทศ โดยการเอื้อเฟื้อจากนักโทษชายทักษิณ
ที่น่าสนใจจากนี้เป็นต้นไป คือความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์กับอำมาตย์และทหารที่ ทักษิณปลุกให้เป็นคู่กรณีเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดง สร้างความเกลียดปลูกฝังความแค้นบ่มเพาะความชิงชังมานานหลายปีจะเป็นอย่างไร
จากท่าทีที่ปรากฎดูเหมือน “ยิ่งลักษณ์-ยิ่งเละ” จะเลือกทำตามแผนของพี่ชายหนีคุกคือ รักษาอำนาจด้วยการกราบกรานอำมาตย์ประนีประนอมกองทัพ
นั่นเท่ากับ เป็นการหันหลังให้กับคนเสื้อแดงซึ่งกำลังจะถูกพรรคเพื่อไทยสลัดทิ้ง ลอกคราบสีแดงออกใส่สูทกลับเข้าสู่ระบบ จนลิ้นจุกปากไม่มีใครทวงถามถึงความยุติธรรมให้กับความตาย 91 ศพ ที่กำลังถูกทักษิณและพวกเหยียบขึ้นสู่อำนาจ
เสือกระดาษ
