“ชูวิทย์” เปิดเมนูดักคอ ครม.ผัวเมีย รมต. เตือนอย่าซ้ำรอยสมัย ทรท. ลุยทำหน้าที่ฝ่ายค้านช่วง ปชป.หงอย จวก “เสธ.หนั่น” เตรียมดัน “ลูกยอด” ขึ้นชั้นเสนาบดี ยันไม่เหมาะสม อย่าเห็นประเทศเป็นบริษัทตัวเอง จี้สามีว่าที่นายกฯ หญิงต้องเปิดเผยทรัพย์สินด้วย แม้ไม่จดทะเบียน
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ทำการพรรครักประเทศไทย สวนชูวิทย์ สุขุมวิทซอย 10 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค จำนวน 4 คน ได้แก่ นายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ นายโปรดปราน โต๊ะราหนี นายพงษ์ศักดิ์ เรือนเงิน และตัวนายชูวิทย์เอง พร้อมทั้งนำสุนัขคู่ใจชื่อโมโตโมโต้ มาร่วมการแถลงข่าวด้วย
โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้หลายคนดูถูกพรรคของตนว่าเป็นแค่พรรคสีสัน แต่ผลคะแนนการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.ที่ออกมายืนยันได้ว่า ทุกจังหวัดทั่วประเทศได้เลือกและสนับสนุนพรรคของตน ก็ขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน เมื่อ 2-3 วันก่อน ฝั่งรัฐบาลได้จับมือ ชูมือตั้งรัฐบาล ภายใต้วิสัยทัศน์ 2020 สำหรับตนนั้นขอชูมือทำหน้าที่เช่นกัน ด้วยการตรวจสอบรัฐบาลชุดนี้ โดยภารกิจเร่งด่วนขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังหงอยอยู่ เริ่มตั้งแต่การจับตาการตั้งคณะรัฐมนตรี ขออย่าให้เอานอมินี เอาลูก เอาภรรยามาเป็น ไม่เช่นนั้นตนจะออกมาอย่างแน่นอน เพราะรัฐมนตรีแต่ละคนต้องมีความสามารถเฉพาะทาง มีคุณสมบัติและการศึกษาที่เหมาะสม ไม่ใช่บางคนเป็นแอร์โฮสเตส โดยตนให้เวลารัฐบาลทำงาน 6 เดือน แต่สำหรับพรรคร่วมบางพรรคที่มาสานงานต่อ รับกระทรวงเดิมที่เคยดูแลในรัฐบาลที่แล้ว เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตนให้เวลาทำงาน 1 เดือน เพราะถือว่าเป็นการทำงานต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว
นายชูวิทย์กล่าวอีกว่า เหตุที่ต้องออกมาตรวจสอบเพราะเห็นว่าพรรคการเมืองบางพรรคไม่มีสถานะเป็นพรรคการเมือง เพียงแต่เป็นกลุ่มก้อนที่มาลงทุนเพื่อผลประโยชน์ โดยขอเตือนพรรคเพื่อไทยว่าอย่าซ้ำรอยพรรคไทยรักไทยในอดีต เพราะขณะนี้ทราบว่ามีการวิ่งเต้นอย่างหนักที่จะนำตัวแทนผลประโยชน์ทับซ้อน เอาพรรคพวกนายทุนมาเป็นรัฐมนตรี และหนักไปถึงขั้นนำคนในครอบครัวมาเป็นตัวแทนเข้าไปเป็นรัฐมนตรี อย่ามองประเทศชาติเป็นบริษัทจำกัด อย่างบางคนเตรียมเกษียณแล้วแต่เตรียมลูกมาเป็นรัฐมนตรี ทำเหมือนเป็นมรดกของครอบครัว ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือปูจ๋า ทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ เช่น การยกเลิกกองทุนน้ำมัน แต่ก๊าซจะขยับราคาขึ้นจะทำอย่างไร ค่าครองชีพของประชาชนที่สูงอยู่จะแก้ไขอย่างไร เพราะวันนี้ได้ประกาศแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เลย
“ผมยืนยันว่าไม่มีเสียใจ และจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าผมมีวิสัยทัศน์เกินกว่า 2020 อย่างแน่นอน” นายชูวิทย์กล่าว จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ได้เตรียมสำรับอาหารพร้อมเปิดเมนูคณะรัฐมนตรี โดยได้จัดเตรียมอาหารต่างๆ วางไว้บนโต๊ะ และเปรียบเทียบรายการอาหารเป็นกระทรวงต่างๆ ที่มีการจัดสรรในการตั้ง ครม.ชุดนี้ ได้แก่ จานแรกใส่เหรียญกษาปณ์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นตัวแทนของกระทรวงการคลัง และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จานที่ 2 มีแก้วที่บรรจุน้ำมันเบนซินวางไว้ในจาน เปรียบเป็นกระทรวงพลังงาน จามที่ 3 เป็นปลาแซลมอนผัดพริกไทยดำ เปรียบเป็นกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นของแพงที่ใครๆ ก็แย่งกันกิน จานที่ 4 เป็นไส้กรอกรวมเยอรมัน ที่ทับรูปถ่ายนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา เปรียบเป็นกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายชูวิทย์ได้สัพยอกว่ากระทรวงนี้ระวังให้ดี เปิดมาจะเจอฮุนเซน จานที่ 5 เป็นปลาทูทอด ข้าว และผักสด เปรียบเป็นกระทรวงเกษตรฯ โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า จานนี้มีคนจองแล้ว จานที่ 6 เป็นกะเพราไก่ไข่ดาว เปรียบเป็นกระทรวงพาณิชย์ เพราะไข่ยังแพงอยู่ จานที่ 7 เป็นสเต๊กและเฟรนช์ฟราย เปรียบเป็นกระทรวงคมนาคม จานที่ 8 เป็นข้าวเป็ดย่าง เปรียบเหมือนกระทรวงกลาโหม
โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า ขอให้ระวังให้ดีๆ จะวางกำลังโยกย้ายอย่างไร หากวางตัวผิดจะเกิดปัญหา ทั้งนี้ บนโต๊ะอาหารนั้นนายชูวิทย์ได้เตรียมน้ำแดงมาด้วย และกล่าวว่า แก้วนี้เปรียบเหมือนคนเสื้อแดงที่วันนี้ได้ออกมาทวงตำแหน่งรัฐมนตรี มีความกระสันในตำแหน่งแล้วเหมือนกัน ขอบอกว่าถ้าจัด ครม.แล้วยังทุกอย่างเหมือนกับสมัยรัฐบาลไทยรักไทยของพี่ชาย อย่างนั้นเป็นวิสัยทัศน์ 1990 ไม่ใช่วิสัยทัศน์ 2020
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายชูวิทย์ได้ยกโทรศัพท์ที่วางบนจานแรกขึ้นมาพร้อมกล่าวว่า “ฮัลโหล ทักษิณเหรอ โทร.หาปูเหรอ... เขาเป็นพี่น้องกัน จะไปช่วยประชาชนแต่ไม่ช่วยพี่ชายได้อย่างไร น่าแปลกอยู่นะ พี่น้องตัวเองไม่ดูแล นับประสาอะไรจะไปดูแลประชาชน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.สนั่นจะผลักดันลูกชายมาเป็นรัฐมนตรี แต่ตัวเองไม่ขอรับตำแหน่ง นายชูวิทย์กล่าวว่า ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ขอถามว่าคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างไร หากเป็นตัวของ พล.ต.สนั่น ตนไม่ขัดข้อง แต่ลูกมีความสามารถอย่างไร เพราะประเทศไทยไม่ใช่บริษัทจำกัด หากทำเช่นนี้ตนจะฟ้องประชาชน โดยเฉพาะนายกฯ ปูจ๋า จะออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ว่าไม่ใช่พรรคของตน แต่เพราะเป็นหัวหน้ารัฐบาลต้องรับผิดชอบ อีกทั้งเป็นคนเชิญพรรคร่วมเหล่านี้มาเป็นรัฐบาล
เมื่อถามต่อว่าในส่วนของการตรวจสอบการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่พบว่ามีสถานะสมรสแต่ไม่จดทะเบียนกับสามี นายชูวิทย์กล่าวว่า ในทางพฤตินัยคนทั้งเมืองทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กับนายอนุสรณ์ อมรฉัตร เป็นสามีภรรยากัน แต่ทางกฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องยื่น แต่เพื่อเป็นการแสดงสปิริต น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องยื่นแสดงรายการทรัพย์สินพร้อมกับสามี ถึงแม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีทรัพย์สินมากกว่าสามีเยอะก็ตาม
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ยังได้ออกแถลงการณ์ภารกิจเร่งด่วน 5 ข้อ 1.ติดตามตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งคณะรัฐมนตรีว่ามีความรู่ความสามารถเพียงพอ 2.ติดตามข้อเท็จจริงในคดีการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และแนวทางปรองดองของพรรคเพื่อไทย 3.ตรวจสอบสัญญาประชาคมที่พรรคเพื่อไทยได้ใช้ในการหาเสียง 4.ติดตามการแก้ไขปัญหาปากท้อง ลดความเดือดร้อนของประชาชน และ 5.จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ แต่หากรัฐบาลทำงานอย่างมีประสิทธิภาพก็พร้อมจะสนับสนุน
อนึ่ง ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ค. เวลา 10.00 น. นายชูวิทย์จะเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กชื่อว่า การเมืองแบบหมาๆ ที่เนื้อหาจะเกี่ยวกับการเล่าประสบการณ์การหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาอีกด้วย