ผ่าประเด็นร้อน
เวลานี้ถ้าเพ่งมองไปที่พรรคเพื่อไทย ข้ามไปถึงนครดูไบ จะได้เห็นบรรยากาศการวิ่งเต้นแย่งชิงกันนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ ที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ยินการปล่อยข่าว เพื่อขัดขาไม่ให้คนอื่นเข้ามา หากมองในมุมของความสมเพชและปลงๆก็ต้องบอกว่านี่คือการเมืองด้อยพัฒนาแบบไทยๆที่สืบทอดกันมานานหลายสิบปีแล้ว
อย่างไรก็ดีระหว่างที่รอการเปิดสภาชุดใหม่ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะต้องเป็น ยิ่งลักษณ์ ไม่เปลี่ยนแปลง ก็น่าจะใช้โอกาสนี้ให้ข้อมูลโดยวัดจากความรู้สึกของสังคมว่าสิ่งไหนที่รัฐบาลใหม่ควรทำและสิ่งใดบ้างที่ไม่สมควรทำและเอาตัวออกมาให้ห่างๆ หากจะอยู่ต่อไปนานๆให้สมกับความไว้วางใจของประชาชนที่เทเสียงมอบให้อย่างถล่มทลาย
แต่ถึงอย่างไรก็เชื่อว่าตัวของ ยิ่งลักษณ์ รวมไปถึงกุนซือรอบตัวน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่วางแผนแก้เกมจนเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ สุเทพ เทือกสุบรรณ มาได้แบบนี้หรอก แต่เพื่อความแน่นอนก็น่าจะเน้นย้ำกันอีกรอบ
สำหรับสิ่งไหนที่จะทำให้รัฐบาลชุดที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้าได้อยู่ยาวนานก็ไม่มีอะไรซับซ้อน อย่างเช่น ต้องมีการสรุปบทเรียนว่าในยุครัฐบาลที่ผ่านมาตั้งแต่ยุครัฐบาลของพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำสิ่งใดที่ล้มเหลวและสำเร็จมาบ้าง แต่ในที่นี้จะแยกมาเฉพาะสิ่งที่ล้มเหลวมาเตือนใจ ซึ่งหลักๆก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า อย่าทุจริตคอรัปชั่น อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องเป็นอันขาด เพราะจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้รัฐบาลภายใต้การนำของ พี่ชาย ที่ว่ามีอำนาจและมีเสถียรภาพมั่นคงมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยก็ต้องล้มครืนลงจนได้
นี่คือบทเรียนอันตรายที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องนำมาศึกษาทบทวนกันอีกครั้ง สิ่งดังกล่าวสรุปก็คือ “ไม่ควรทำ” และต้องหลีกลี้ให้ไกล
สิ่งต่อมาก็คือสิ่งที่ต้องทำและสมควรทำอย่างยิ่ง ก็คือ ต้องบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่อย่างเสมอภาคกัน ไม่ว่าคนๆนั้นเขาจะเลือกเธอหรือไม่ จะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ก็ตาม ต้องทำตาม “คำสัญญา” ตามที่ได้หาเสียงเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ปรับเพิ่มเงินเดือนสำหรับผู้ที่จบปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท เพิ่มราคาข้าวเกวียนละไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อเดือน ราคาข้าวของต้องลดลง เลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ลดภาษี ฯลฯ เรื่องเหล่านี้รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งทำโดยเร็วที่สุด เพราะนี่คือความหวังของชาวบ้าน แถมยังเป็นชาวบ้านในระดับล่างที่หาเช้ากินค่ำ ถูกเอารัดเอาเปรียบมาตลอดจะได้มีความสุขเสียที
แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีคนปรามาสว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน ทำไม่ได้หรือทำได้ยาก เพราะหลายโครงการต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมหาศาลก็ตาม แต่ในเมื่อพูดหรือสัญญาเอาไว้แล้วก็ต้องทำให้ได้ ขณะเดียวกันเชื่อว่านโยบายเหล่านี้ต้องผ่านการกลั่นกรองมาอย่างรอบคอบไม่ใช่แค่ “ถ่มน้ำลาย” ส่งเดชเท่านั้น
ประการสำคัญต่อมาก็คือเรื่อง “ของร้อน” ที่ห้ามเข้าไปแตะอย่างเด็ดขาด เพราะนี่คือ “หายนะ” อย่างแน่นอน ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอยากเตือนเอาไว้ล่วงหน้า ต้องหนีออกมาให้ไกลที่สุด ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นก็ต้องบอกว่า ไม่มีอะไรมาก คนส่วนใหญ่น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าอะไรควรไม่ควร ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องทุจริตคอรัปชั่น เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็ต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าอย่าพยายามหาทาง “นิรโทษกรรมลบล้างความผิด”ให้กับ ทักษิณ ชินวัตร และบรรดา “หัวโจก”คนเสื้อแดงเป็นอันขาด รวมไปถึงอย่าเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หรือโยกย้ายข้าราชการเพื่อหวังเบี่ยงเบนคดี
นอกจากนี้อย่าปล่อยให้มีขบวนการ “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” เกิดขึ้น หรือต้องกำหราบอย่างเด็ดขาดโดยเร็วที่สุด !!
หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศจะไม่ถือดี ดันทุรัง เพราะคิดว่าได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นแล้วจะทำอะไรก็ได้ เพราะถ้าคิดแบบนั้นก็เตรียมนับถอยหลังได้เลย
ดังนั้นถ้าจะให้ย้ำกันอีกทีก็ต้องบอกว่า รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะรู้ดีว่าสิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำ โดยเฉพาะ “ของร้อน” ห้ามเข้าไปแตะเด็ดขาด เพราะนั่นคือหายนะ ดับความหวังและความฝันของตัวเองและของชาวบ้านอีกหลายคนที่เอาใจช่วย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีการชี้ให้เห็นเป็นการเตือนสติกันล่วงหน้ากันแบบเสียงดังๆ เนื่องจากเกรงว่าจะอดใจไม่ไหว หวังว่าคงจะไม่คิดอย่างนั้นเป็นอันขาด !!