“เติ้ง” สั่งปรับฮวงจุ้ยชาติไทยพัฒนา หลังพ่ายเลือกตั้งยับ ด้าน “หมอวรรณรัตน์” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ยังไม่มีคำตอบเรื่องโควตา รมต. เตรียมหารือพรรคร่วมฯกำหนดนโยบายรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพร้อมด้วยนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรค ได้เดินสำรวจทัศนียภาพภายในบริเวณหน้าอาคารสำนักงานของพรรค
โดยนายบรรหารกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยหากจะปรับฮวงจุ้ยของพรรคด้วยการตัดหรือย้ายต้นปาล์มใหญ่ออกไป ขณะที่นายสมศักดิ์ระบุว่าทางที่ดีควรมีการนำต้นปาล์มมาเสริมอีกต้นเพื่อให้เป็นคู่กัน เพราะก่อนหน้านี้เคยมีต้นปาล์มคู่กันแต่ได้มีต้นหนึ่งตายลงไป
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เชิญซินแสผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับฮวงจุ้ย และพราหมณ์มาทำพิธีเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่พรรคภายหลังการเลือกตั้งโดยเฉพาะการซ่อมแซมเเครื่องทำน้ำพุ ซึ่งเสียมาเป็นเวลานาน เช่นเดียวกับการตกแต่งสวนรอบๆ อาคารสำนักงานของพรรคด้วยการนำดอกไม้และต้นไม้บางประเภทมาตกแต่งเพื่อความสวยงาม
ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่พรรคได้แสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างหาเวลาที่เหมาะสมเพื่อหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดถึงเรื่องการกำหนดนโยบายของรัฐบาล โดยจะนำนโยบายของแต่ละพรรคมาร่วมหารือเพื่อกำหนดเป็นนโยบายภาพรวมของรัฐบาลต่อไป เบื้องต้นแกนนำของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ยังไม่ได้พูดคุยว่าจะนำเสนอนโยบายใดให้รัฐบาล
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความชัดเจนเรื่องตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี นพ.วรรณรัตน์กล่าวปฏิเสธจะให้คำตอบ โดยกล่าวว่า “ผมยังไม่มีความเห็นใดๆ ถามผมให้ตาย ผมก็ยังไม่มีคำตอบ”
รายงานข่าวจากพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ในวงรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลของ 5 พรรคการเมืองนั้น แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้หารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ถึงการกำหนดนโยบายของรัฐบาล แต่แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะหารือเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่า ควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อมาหารือถึงความชัดเจนอีกครั้ง โดยนำนโยบายของพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาลทั้งหมดมาเปรียบเทียบ แบ่งเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคง เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดก่อนจะนำไปร่างเป็นคำแถลงแนวนโยบายแห่งรัฐต่อที่ประชุมรัฐสภา
“ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยได้รับฉันทามติจากประชาชน ให้มาเป็นแกนนำรัฐบาล ดังนั้นตัวนโยบายต่างๆ คาดว่าคงเป็นของพรรคเพื่อไทยเป็นส่วนใหญ่ แต่จะว่าไปนโยบายของทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล มีลักษณะเป็นประชานิยม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะปรับเข้าหากัน โดยหลักของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่เคยดูแลกระทรวงพลังงานมาก่อน อาจเน้นการนำเสนอนโยบายด้านพลังงานให้พรรคแกนนำได้ไปพิจารณา” แหล่งข่าวชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ระบุ