xs
xsm
sm
md
lg

“พญานาค” โดนขอดเกล็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมา ทำเอาคอการเมืองออกอาการช็อกตาตั้งขนหัวลุกกับกระแสความแรงของพรรคเพื่อไทยที่ถาโถมเข้าใส่ ทำเอาพวกที่ที่ยืนระยะไม่ยืนต้องชอกช้ำไปตามๆ กัน

ที่น่าผิดหวังที่สุดคนหนึ่งคงหนีไม่พ้น “หัวหน้าวังพญานาค” พินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่ม 3 พี พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่เจอดีถูกกระแสพรรคเพื่อไทยเล่นงาน “ขอดเกล็ด” แถมทุบร่วงแม่น้ำโขงไปด้วยสภาพไม่มีชิ้นดี

ไม่สามารถนำพาลูกทีมเข้าสู่สภาหินอ่อนได้แม้แต่คนเดียว

โดยในส่วนว่าที่ ส.ส.7 คนที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินได้เข้ามานั้น มีศิษย์เก่า “พรรคเพื่อแผ่นดิน” ที่หอบหิ้วมาร่วมหัวจมท้ายกับสังกัดใหม่ ฝ่าด่านเข้ามาได้เพียง 2 หน่อเท่านั้น

รายหนึ่ง ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่มากินโควต้าปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 2

อีกรายหนึ่ง พลพีร์ สุวรรณฉวี ทายาท ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พีผู้ล่วงลับ ที่เบียดเอาชนะคู่แข่งในพื้นที่เขต 9 โคราช มาได้อย่างเส้นยาแดงฝ่าแปด

อย่างไรก็ตาม 2 เก้าอี้ที่ว่านี้ก็ไม่ถือเป็นผลงานของ “พินิจ” แต่ประการใด

เพราะแง่หนึ่งคะแนนบัญชีรายชื่อส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาจากพื้นที่ในความดูแลของของฝั่งเพื่อแผ่นดิน แต่มากฐานจัดตั้งของฝั่งที่ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค เป็นผู้ดูแลมากกว่า

ขณะที่ “พลพีร์” นั้นพอสิ้นบารมีพ่อก็ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ทำให้ “สุวัจน์” ต้องออกแรงเข้าไปช่วยกู้สถานการณ์ไว้ให้ จนหลุดเข้ามาเป็น 1 ในว่าที่ ส.ส.ได้ในที่สุด

ที่สำคัญเมื่อหันมาดูอดีต ส.ส.เพื่อแผ่นดิน กว่า 10 ชีวิตที่อยู่ในความดูแล “พินิจ” และคู่หูอย่าง ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ กลับกลายเป็น “ส.ต.สอบตก” กันกราวรูด ไม่เว้นแม้แต่ฐานที่มั่นเดิมที่ “วังพญานาค” เคยผงาดอยู่ ทั้งหนองคาย สกลนคร นครพนม ศรีสะเกษ

หรือกระทั่ง จ.บึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ที่ตั้งกองบัญชาการ “จรยุทธ์” ของ “พินิจ” ก็ยังไม่รอด ทำได้เพียงหายใจรดต้นคอผู้ชนะจากพรรคเพื่อไทย

หันมาดูในส่วนของ พี-ปรีชา ที่โฟกัสเป้าไปที่ 11 เขตของ อุบลราชธานี ที่ว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่มีระบบจัดการดีที่สุดในบรรดาผู้สมัครทั้งหมดของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ภายใต้การกำกับดูแลทั้งบนดิน-ใต้ดินของ “เสี่ยอี๊ด” สิทธิชัย โควสุรัตน์ ก็ยังไม่สามารถฝ่าด่านเข้ามาได้แม้เพียงเขตเดียว หนำซ้ำยังมีหลายเขตที่หลุดวงโคจรไม่ติดลำดับ 2 หรือ 3 อีกต่างหาก

โดยทั้งหมดก็เป็นเพราะยืนระยะต้านทาน “กระแส” ของพรรคเพื่อไทยไม่ไหว ทั้งยังมีอาการ “ขัดลำกล้อง” ทำให้ “กระสุน” ที่ปล่อยไปไม่ตรงเป้าในช่วงโค้งสุดท้าย

ซึ่งผลประกอบการที่ตรงตามเป้าของ ขั้วเพื่อแผ่นดินเก่า นี้เอง เป็นผลให้ภาพรวมของพรรคได้มาเพียง 7 ที่นั่ง ห่างจากเป้าหมายต่ำ 15 ที่นั่ง อยู่หนึ่งเท่าตัว ทำเอาการเจรจาต้าอวยเข้าร่วมรัฐบาลงวดนี้ “เสียงแผ่ว” ลงไปเยอะ

จนทำให้อาจได้โควตาเก้าอี้เสนาบดีเพียง 1 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งฝ่าย “สุวัจน์” ก็หวังยึดสัมปทานเดิมที่ กระทรวงพลังงาน ไว้ให้ได้ เพราะต้องการสานงานต่อเนื่อง หลังจากคนของพรรคนั่งบริหารงานมาตั้งแต่สมัย “มาดามติ้ง” พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ จนมาถึง วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ในปัจจุบัน

ส่วนจะได้ “สินน้ำใจ” เพิ่มเป็น “เก้าอี้ รมช.” อีกสัก 1 ตัวหรือไม่ ก็คงสุดแล้วแต่ทางแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย

แม้พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินจะตีตั๋วร่วมรัฐนาวาไปเรียบร้อยโรงเรียน “ยิ่งลักษณ์” ไปแล้ว แต่ ขั้วเพื่อแผ่นดินเก่า จะไปขอเอี่ยวคั่วเก้าอี้ รมต.กับเขาด้วย ก็คงไม่ถูกต้องนัก

เพราะผลงานเป็นที่ประจักษ์อยู่ตำตา
กำลังโหลดความคิดเห็น