รายงาน:ปชป.พ่ายเพื่อไทย หมดรูป นับถอยหลัง “มาร์ค-เทพเทือก”

พลันที่เข็มนาฬิกาบอกเวลาบ่ายสามโมงตรง หีบเลือกตั้งทุกใบทั่วประเทศไทยจำต้องปิดลงทันที บรรยากาศหน้าบริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่ในพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างจะหงอยเหงา ไม่คึกคักเท่าที่ควร ดูเสมือนจะเป็นลางบอกเหตุถึงความแพ้พ่ายให้กับศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ก็เป็นได้

แกนนำพรรคไม่กี่คนเริ่มเดินทางมาลุ้นการนับคะแนน อาทิ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ผู้ที่รับหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่กุมบังเหียนบัญชาการรบ พร้อมขุนพลคู่หู กรณ์ จาติกวณิช อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งในสนาม กทม.และ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ หัวหน้าคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การรบ บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ และ บุญยอด สุขถิ่นไทย สองเกลอผู้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงคอยตอบโต้คู่แข่งในเรื่องต่างๆ อยู่เป็นระยะตลอดช่วง 45 วันที่ผ่านมา

แม้สีหน้าของพวกเขาจะแสดงออกด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ยี่หระต่อผลการรายงานตัวเลขจากการสำรวจผลการนับคะแนนบริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง หรือที่เรียกกันว่า “เอ็กซิต โพล” ของสำนักต่างๆ จะพากันเทให้กับพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยชนิดที่เรียกว่า “ถล่มทลาย” ต่างพากันซุ่มเงียบอยู่บนห้องทำงานชั้น 2 ตึกควง อภัยวงศ์ รอลุ้นผลการนับคะแนนด้วยใจระทึก

ส่วนกุนซือมือโปรจัดทัพรัฐบาล อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ แม่บ้านพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยโชว์ผลงานจัดตั้งรัฐบาลเมื่อสองปีที่แล้ว ครั้งนี้ขอหลบลุ้นผลเลือกตั้งที่บ้านพัก ย่านพุทธมลฑลสาย 2 แต่ก็ยังมีการตามติดสถานการณ์ที่พรรคอยู่เป็นระยะ ขณะเดียวกัน ยังได้ยกหูต่อสายไปยังแกนนำพรรคพันธมิตรเหมือนจะทวงถามถึงสัตยาบันที่เคยมีร่วมกันอยู่กลายๆ

ขณะเดียวกัน นอกจากจะไม่ให้ค่ากับเอ็กซิตโพลต่างๆ แล้ว พวกเขายังมองว่าสิ่งนี้เป็นเพียงเกมอีกอันหนึ่งที่พรรคคู่แข่ง “จัดหนัก” ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการโหมกระหน่ำด้วยเอ็กซิตโพลจากสำนักที่ล้วนมีชื่อ เขย่าขวัญ และ กระตุกต่อมหลอน อีกระลอก และถ้าหากการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งในแต่ละหน่วยจบสิ้นลง แล้วเหตุการณ์พลิกผันไปในทางตรงข้าม จะแบบหนัก ถล่มทลาย หรือแบบเบาๆ คือ ตัวเลขไล่หลังอยู่ แต่ไม่กี่ที่นั่ง ก็จะมีการนำประเด็นนี้ไปจุดประกายให้เกิดการเคลื่อนไหวหนักอีกระลอก ของกลุ่มเสื้อแดงที่ตั้งท่ารอรับลูกอยู่แล้ว

เพราะนั่นหมายถึง หากพรรคประชาธิปัตย์ได้ที่นั่งมาเพียงพอที่จะมีลุ้นในการจัดตั้งรัฐบาลแข่งอย่างไม่น่าเกลียด มีหรือคนอย่าง สุเทพ จะนิ่งเฉย ปล่อยให้คู่แข่งหยิบชิ้นปลามันไปอย่างง่ายดาย

แต่ถ้าถึงที่สุดแล้วผลตัวเลขของพรรคประชาธิปัตย์ได้มาตามหลังคู่แข่ง 30 นั่งขึ้นไป หรือ แพ้อย่างราบคาบ ตามผลโพล แกนนำพรรคก็คงต้องยอมหลีกทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล จะฝืนมติมหาชนก็คงไม่ได้

ตัวเลขของเอ็กซิตโพล จำนวนตัวเลข 300 กว่าที่นั่งที่พรรคคู่แข่งได้ไป และ 150 ที่นั่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มา ทำเอาหลายคนมีอาการ “นั่งไม่ติดเก้าอี้” อยู่เหมือนกัน

โดยเฉพาะสองคน อย่าง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เพราะนั่นหมายถึงการชี้ชะตาอนาคตทางการเมืองของเขาในตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่เขาถึงขั้นยกมาเป็นเดิมพันในศึกครั้งนี้ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เก้าอี้มาไม่ถึง 170 ที่นั่งก็พร้อมที่จะไขก๊อก ลุกออกไปให้คนอื่นเข้ามาบริหารพรรคแทน

รวมถึงแม่บ้านพรรคอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ขอวางเดิมพันเกทับซ้ำเข้าไปด้วยว่า ถ้าได้ต่ำกว่า 170 ที่นั่ง ก็พร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคด้วย เพราะถือเป็นทีมเดียวกัน

แม้ทั้งสองคนจะแสดงท่าที่พร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้ง ที่ ณ เวลานี้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนว่าจะหัวหรือก้อย ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ แต่คนในพรรคเชื่อว่า ถึงที่สุดบุคคลทั้งสองก็คงจะได้รับเลือกกลับเข้ามาอีกครั้งอย่างแน่นอน หรือถ้าถึงเวลาที่จำต้องเปลี่ยนแปลงภายในพรรคจริงๆ ก็ยังมีหลายคนที่ถูกวางไว้เป็นทายาทคนต่อไป อย่าง กรณ์ จาติกวณิช อภิรักษ์ โกษะโยธิน ชื่อทั้งสองคนนี้มักจะถูกเอ่ยขึ้นมาเป็นลำดับต้นๆ

พวกเขาเชื่อว่า แม้ผลสรุปของการเลือกตั้งครั้งนี้ จะพ่ายแพ้ให้กับพรรคคู่แข่งอย่างเฉียดฉิว หรือ ถล่มทลายอย่างไร การดำรงชีวิตของพรรคประชาธิปัตย์ จะยังคงเดินหน้าต่อไป เหมือนคำที่พวกเขาได้รับฉายาว่า “พรรคแมลงสาบ” คือ มีวิวัฒนาการสุดยอด สามารถปรับตัวไปตามสถานการณ์ตลอดเวลา จนทำให้มีชีวิตยืนยาวมาได้ถึง 65 ปี