ภท.ยื่น กกต.ยุบ พท.ปล่อย “ทักษิณ” โฟนอินใส่ร้าย “ชัย-เนวิน” ทำคะแนนนิยมหด

ภูมิใจไทย เตรียมยื่น กกต.ยุบเพื่อไทย หลังปล่อย “นช.แม้ว” โฟนอินใส่ร้าย “ชัย-เนวิน” ส่งผลต่อคะแนนนิยม ผิดกฎหมายเลือกตั้ง พร้อมบี้ กกต.ตรวจสอบข่าวกุนซือเพื่อแม้วซื้อสื่อโปรโมต “เจ๊ปู” ระบุผิดกฎหมายเลือกตั้ง เข้าข่ายถึงขั้นยุบพรรค ขณะเดียวกัน ซัด กกต.และ ผบ.ตร.เลือกปฏิบัติสั่งเด้ง ผู้การฯสุรินทร์ แต่ตำรวจสุโขทัยไม่เป็นกลางทำเฉย “ชัย” ฉุนจัด เตรียมอาละวาด แฉ พรรคคู่แข่งซื้อเสียง บกปืนขู่ชาวบ้าน

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามายังเวที นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พรรคได้ดูเนื้อหาพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีการพูดใส่ร้าย โจมตี พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะนายเนวิน ชิดชอบ และ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภาว่าเป็นคนเนรคุณ ซึ่งเป็นความเท็จและส่งผลต่อคะแนนนิยม มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน ที่จะมีต่อพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นในวันที่ 2 ก.ค.พรรคจะไปยื่นร้องต่อ กกต.เพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทยจากการกระทำผิดดังกล่าว โดยขณะนี้ได้มีการรวบรวมเทป การปราศรัยไว้แล้ว

นอกจากนี้ หากเวทีการปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ในเย็นวันนี้ที่รัชมังคลาฯ กทม.มีการพูดใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย เราก็จะร้องต่อ กกต.เพราะเราจะไม่ละเว้นโดยเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมา นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทย มีการสนับสนุนเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว ซึ่งการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ตนคิดว่า กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยรู้ดี แต่ไม่มีการห้ามปราม กลับปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พูด ตรงนี้เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนอยากร้องเรียนผ่านสื่อไปยัง กกต.กรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการให้ผลประโยชน์กับสื่อมวลชน เพื่อให้เชียร์ น.ส.ยิ่งลักษณื ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตนคิดว่า เรื่องนี้จะส่งผลดีต่อพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าประชาชนดูข่าวผ่านสื่อ แล้วหลงเชื่อ จึงคิดว่า น่าจะเข้าข่ายการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงไม่อยากให้ กกต.นิ่งเฉยอ่านข่าวแล้วก็ผ่านไป อยากให้มีการสืบสวน สอบสวน ทำความจริงให้ปรากฏ

นายศุภชัย ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.สั่งเด้ง พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.จว.สุรินทร์ มาช่วยราชการ ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) ว่า พรรคภูมิใจไทยรู้สึกเศร้าเสียใจการใช้ดุลพินิจ ในการสั่งย้ายผู้บังคับการฯ โดยไม่ดูข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกใจกรณีตำรวจ จ.สุโขทัย ถูกร้องเรียนวางตัวไม่เป็นกลาง ผ่านมา 2 สัปดาห์ แต่ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ หลักฐานมีความชัดเจน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 1 ก.ค หาก ผบ.ตร.จะพิจารณาสั่งย้ายก็ยังมีเวลา เพื่อให้การเลือกตั้งมีความสุจริต และเที่ยงธรรม

นายศุภชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ย้าย ผบก.จว.สุรินทร์ ถ้าจะอ้างว่าเกิดจากการไปดูแลนายชัย ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยนั้น ตนอยากให้มองด้วยความเป็นธรรม เพราะนายชัย เป็นคน จ.สุรินทร์ เป็นอดีตประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นประมุข 1 ใน 3 ของอำนาจในระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวสุรินทร์ การไปดูแลผู้ใหญ่ของประเทศก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจาก นายบรรหาร ศิลปอาชา หรือ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมตรี ที่ไปไหนก็มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ติดตาม ดูแล แล้วตรงนี้ทำไมทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นเป้าที่โดนเล่นงานมากที่สุด นายศุภชัย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าจะไม่ใช้อำนาจรัฐ ทั้งๆ ที่สามารถใช้ได้มากที่สุด ซึ่งกระแสภายนอกอาจมองดูว่าเราเป็นพรรคที่ใช้อำนาจรัฐ แต่เรากลับไม่ใช่เลย วันนี้เราพยายามอดทนอย่างมากที่สุดเพื่อให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 2 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รู้สึกเหมือนถูกรังแก หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ได้ไปถ่ายรูปที่ตัวเองกำลังไปรับประทานอาหาร ที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ มาให้การต้อนรับตัวเองเท่านั้น โดยไม่มีการหารือเรื่องการเมือง โดยมีสื่อต่างๆ เป็นสักขีพยาน แต่กลับมีการส่งเรื่องไปให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย และนำไปร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยไม่มีการตรวจสอบ ทำโดยตื่นตูม ก่อนที่จะส่งไปให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. มีคำสั่งย้ายผู้การฯ จ.สุรินทร์

“ทำแบบนี้ไม่ไหว เดี๋ยวผมจะอาละวาดให้ดู เพราะขณะนี้มีหลักฐานว่าพรรคคู่แข่ง มีการซื้อเสียงกันวินาศสันตะโร บางคนพกปืนในเสื้อ แล้วเปิดขู่ชาวบ้าน จนหนีไปหมดโดยหลังเรื่องตั้งวันที่ 3 ก.ค.ผมจะนำเรื่องนี้มาเปิดเผยอย่างแน่นอน”

ด้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ในฐานะคนไทยเป็นห่วงชาวไทยว่าจะเดินไปอย่างไร หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนึกไม่ออกว่าจะบริหารบ้านเมืองอย่างไร เพราะไม่เคยแสดงวิสัยทัศน์ ว่ามีความสามารถด้านไหน ที่ผ่านมาในการขึ้นเวทีหาเสียงเหมือนกับการแสดงคอนเสิร์ต แม้ว่าจะเคยบริหารธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะสามารถบริหารราชการบ้านเมืองได้ จึงเป็นเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะต้องใช้เวลาศึกษาเป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะไม่ทันการเพราะขณะนี้ ประเทศชาติต้องพัฒนาไปข้างหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ (1 ก.ค.) พรรคภูมิใจไทยได้เปิดการปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬากลาง จ.กาฬสินธุ์ มีชาวบ้านมาร่วมรับฟังการปราศรัยประมาณ 30,000 คน โดยมีแกนนำพรรคคนสำคัญ อาทิ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา นายโสภณ ซารัมย์ นายศุภชัย ใจสมุทร และผู้สมัคร ส.ส. จกาฬสินธุ์ ทั้ง 6 เขต ร่วมปราศรัย

ทั้งนี้เนื้อหาการปราศรัยเป็นการลำดับเหตุการณ์อย่างละเอียดตั้งแต่แยกตัวของกลุ่มเพื่อนเนวิน ออกจากพรรคพลังประชาชน ว่าไม่ได้ทรยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่เพื่อต้องการให้ประเทศชาติมีทางออก มิเช่นนั้นจะมีการรัฐประหารแน่นอน

อีกทั้งยังชี้แจงว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้โกงอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ที่ผ่านมาได้ทำงานพัฒนาภาคอีสานอย่างพลิกฝ่ามือ นอกจากนี้ยังเป็นการปราศรัยตอกย้ำนโยบายหากเข้าไปเป็นรัฐบาล จะผลักดันโครงการล้างหนี้กองทุนหมู่บ้าน การประกันราคาข้าวและพืชผลการเกษตร ถนนปลอดฝุ่น พร้อมทั้ง ชูว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคของชาวอีสาน และสนับสนุนให้มีรัฐมนตรีเป็นคนในพื้นที่

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ที่พรรคเลือกมาปราศรัยปิดที่ จ.กาฬสินธุ์ เพราะตั้งใจจะเป็นพรรคของคนอีสาน แก้ปัญหาให้คนอีสาน เมื่อตอนเปิดเวทีปราศรัย เริ่ม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่เดือนร้อน เนื่องจากเป็นที่รวมตัวกันก่อนที่จะไปทำเนียบรัฐบาล จึงทำให้ครั้งสุดท้ายต้องมาที่กาฬสินธุ์ในภาคอีสาน แตกต่างจากบางพรรคการเมืองที่ประกาศเป็นพรรคของคนอีสาน กลับไปเลือกปราศรัยครั้งสุดท้าย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.ในจังหวัดนี้ไม่น้อยกว่า 2 ที่นั่ง