xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” รู้ทัน “มาร์ค” อัดเลือกจ้อปมเขาวิหารเป็นช่วงๆ ตีกินหาเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
“ปานเทพ” ซัด “มาร์ค” ไร้ยางอาย จ้อเฟซบุ๊กตอน 8 ยกประเด็นเขาวิหารกะช่วงชิงคะแนนเสียง เหน็บความจำคงสั้นเขียนเป็นช่วงๆ เน้นด่าคนอื่นเว้นตอนที่ตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง แฉจุดยืนอภิสิทธิ์สู้แค่เลื่อน ชี้หากจริงใจปกป้องอธิปไตยจริง ต้องลาออกจากภาคีสมาชิกตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อให้มีผลในปีนี้


วันที่ 28 มิ.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงลิเกตอนที่ 8 กรณีนายอภิสิทธิ์ เขียนเฟซบุ๊ก “จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ 8” ว่า นายอภิสิทธิ์ มีความทรงจำสั้น เขียนเรื่องเขาวิหารหายเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์เขียนว่า “บอกตรงๆ ว่า ผมรู้สึกละอายใจแทนคุณนพดลที่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้สำนึกเลยว่าต้นตอปัญหาที่รัฐบาลคุณสร้างขึ้นกำลังส่งผลร้ายแรง คุกคามชีวิตพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย” เป็นการด่าแต่คนอื่นยกเว้นตัวเอง เรื่องนี้ประชาธิปัตย์ ต้องรับผิดด้วยเพราะเป็นคนริเริ่มเอ็มโอยู 43 และปล่อยให้มีการสร้างถนนถึงสองเส้น ในบริเวณเขาวิหาร จนเขมรขนอาวุธเข้ามาได้

ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เขียนว่า “วันที่ 28 ก.ค. 2553 ครม.มีมติสนับสนุนการทำงานของสุวิทย์ และมอบอำนาจให้ตัดสินใจในการวอล์กเอาต์จากที่ประชุมกรรมการมรดกโลก หากมีการดึงดันรับรองแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารของกัมพูชา และให้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อทักท้วงของไทยอย่างชัดแจ้ง รวมทั้งทบทวนการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก วันเดียวกัน ผมได้ประกาศจุดยืนรักษาอธิปไตยของชาติ รักษาสิทธิเหนือดินแดนไทย ไม่ให้ความร่วมมือในการบริหารจัดการพื้นที่ที่กระทบต่อดินแดนไทย และยืนยันความพร้อมของกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยของชาติ” นั้น นายปานเทพถามกลับว่า ตกเป็นเพราะการขู่ลาออกใช่หรือไม่ทำให้เลื่อนแผนบริหารออกไป1 ปี แล้วไหนที่เคยบอกเป็นเพราะเอ็มโอยู 43 แสดงว่าเอ็มโอยู43ใช้งานในเวทีมรดกโลกไม่ได้ตั้งแต่ปี 43 แล้วใช่หรือไม่ ในเมื่อเอ็มโอยู43 ใช้ไม่ได้ในเวทีมรดกโลก แล้วจะเลิกใช้เมื่อไร

นายปานเทพกล่าวอีกว่า สำหรับขอความของนายอภิสิทธิ์ ที่บอกว่า “วันที่ 29 ก.ค. 2553 คณะกรรมการมรดกโลกรับฟังข้อทักท้วงของรัฐบาลไทยมีมติเลื่อนการพิจารณาแผนการบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารของกัมพูชาออกไปตัดสินในการประชุมปีนี้” นั้น ไม่ใช่ฟังข้อทักท้วง เป็นเพราะนายสุวิทย์ คุณกิตติ ไปลงนามโดยคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ในการรับมติประณีประนอม 5 ข้อ ทำให้ไทยถลำลึกยอมรับผลผูกพันธ์ จนเริ่มจัดทำแผนบริหารจัดการได้หลังจากนั้น อย่างนี้แล้วยังจะมีหน้ามาอ้างเป็นคะแนนเสียงของตัวเอง ไร้ยางอายที่สุด เมื่อการลาออกจากภาคีสมาชิก จะมีผลใน 1 ปีข้างหน้า หมายความว่าถ้าเปลี่ยนรัฐบาลก็เปลี่ยนนโยบายได้ เท่ากับเป็นการปล่อยความเสี่ยงถึงรัฐบาลหน้า ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจในการปกป้องอธิปไตยจริง ต้องลาออกจากภาคีสมาชิกตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อให้มีผลในปีนี้ แล้วรัฐบาลชุดอื่นจะไม่มีสิทธิ์เอาไปต่อยอดได้เลย

นายปานเทพกล่าวว่า ที่นายสุวิทย์ลาออกเพราะเขาเห็นมติที่กัมพูชา ขอ 8 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 5 “ให้กัมพูชาสามารถเข้าไปซ่อมแซมตัวเขาวิหารได้” มันจะมีประโยชน์อะไรแม้จะมีชาวไทยรวมซ่อมแซมอยู่ด้วย เมื่อประชาชนทั้งสองประเทศอยู่ปะปนกัน เราจะหมดสิทธิ์ผลักดันเขมรออกจากดินแดนไทย ประกอบกับยูเนสโกพยายามหมกเม็ดเอาแผนบริหารจัดการเข้าที่ประชุม ซึ่งนายสุวิทย์ได้ถามย้ำไปหลายครั้ง ก็บ่ายเบี่ยงไม่บอก พอถอนตัวออกจากการเป็นภาคีแล้วถึงได้มาบอกไม่เคยมีวาระแผนบริหารจัดการ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้รัฐบาลไทยกลับมติคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมภาคีเหมือนเดิม เพื่อส่งไม้ต่อไปให้รัฐบาลชุดหน้า

นายปานเทพกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์หวังใช้ประเด็นถอนตัวจากภาคีมรดกโลก ช่วงชิงคะแนนเสียง แท้จริงแล้วนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เห็นด้วยกับการถอนตัว แต่กะเลื่อนแผนบริหารจัดการแลกกับการให้เขมรเข้ามาบูรณะเขาวิหารโดยเลี่ยงคำว่าบูรณะมาเป็นคำว่าป้องกันและอนุลักษณ์ หากจำได้ก่อนถอนตัวมรดกโลก เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์พูดว่า “ชัดเจน มติคณะกรรมการมรดกโลกให้เลื่อนแผนบริหารจัดการ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของไทย”

อย่างนี้จะมาอ้างเป็นเครดิตประชาธิปัตย์เชิญชวนให้คนเลือกเพื่อจะได้มาปกป้องอธิปไตยได้อย่างไร ขณะที่เขมรยังรุกล้ำอยู่ในดินแดนไทย ถนนที่เขมรสร้างขึ้นมาบนเขาวิหารในรัฐบาลชุดนี้ก็ยังอยู่ ที่น่าคิดตอนเป็นฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยแม้กระทั่งขึ้นทะเบียนตัวปราสาทและพื้นที่ขอบๆ วันนี้มาสู้แค่ขอเลื่อน ถือเป็นมาตรการส่งของให้รัฐบาลหน้าใช่หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น