“เทพเทือก” ยันจำเป็นต้องถอนตัวจากภาคีมรดกโลก เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ แขวะ “ปลอดประสพ” ไม่ต้องห่วงจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาประเทศไทย ขอเพียงอย่าให้มีพวกเผาบ้านเผาเมืองมาก่อเหตุนักท่องเที่ยวเพียบ ด้าน “ชุมพล” หนุนถอนตัว เชื่อไม่กระทบท่องเที่ยว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในคณะหัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจรไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ได้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาคีคณะกรรมการมรดกโลกว่า เป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งความจริงจุดยืนของรัฐบาลไทยต้องการที่จะร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ในเวทีโลกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องอธิปไตยของชาติ พื้นแผ่นดินของเราตารางนิ้วเดียวเราก็ยอมไม่ได้ จึงถือเป็นหน้าที่ของเราที่จะปกป้องอธิปไตยของเรา
ส่วนการตัดสินใจเช่นนี้จะส่งผลไปถึงปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องนี้ทหารได้ส่งกำลังดูแลอยู่อย่างแข็งแรงและมั่นคง ซึ่งมั่นใจว่ากองทัพไทยของเราจะรักษาอธิปไตยของเราได้อย่างสมภาคภูมิ ไม่ให้ประชาชนต้องกังวลใจ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ตนเชื่อว่าหลังเลือกตั้งทุกอย่างก็จะคลี่คลาย ขณะนี้มันสอดรับกันอยู่ ซึ่งเมื่อเลือกตั้งแล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อยได้
เมื่อถามว่า ขั้นตอนหลังจากถอนการเป็นสมาชิกภาคีคณะกรรมการมรดกโลกแล้วจะเป็นอย่างไร รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราก็จะทำหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการ เมื่อถามว่านายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยที่ไทยถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก โดยอ้างเหตุผลว่าจะไม่สามารถนำโบราณสถานอื่นๆ ขึ้นเป็นมรดกโลกได้และจะมีผลกับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในประเทศไทย นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ก็ไม่น่าแปลกใจที่นายปลอดประสพไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เพราะไม่เห็นด้วยทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ถ้าเห็นด้วยถึงจะเป็นเรื่องแปลก
“เรื่องของนักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวล เพราะประเทศไทยยังเป็นประเทศที่คนให้ความสนใจมาเที่ยวติดอันดับโลกอยู่ ขออย่างเดียวว่าอย่าให้มีพวกมาเผาบ้านเผาเมือง หรืออย่ามาก่อเหตุจลาจลอย่างที่เคยทำมาอีก คนเขาก็มาเที่ยวแล้ว” นายสุเทพกล่าว
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกเพื่อแสดงการคัดค้านการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารของกัมพูชาว่า การถอนตัวครั้งนี้ถือเป็นผลดีต่อประเทศไทย ทำให้สะท้อนให้ทางคณะกรรมการมรดกโลกได้รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนถึงขนาดที่ต้องรีบลงมติกัน ความจริงเลื่อนการพิจารณาประเด็นดังกล่าวออกไปอีก 1 ปีก็ได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนนั้นไม่ใช่ตัวบอกเหตุว่าเกิดขึ้นเนื่องจากการถอนตัวของประเทศไทยแล้วทำให้เกิดเหตุการณ์ ไม่ใช่ตัวชี้วัด แต่เป็นเรื่องปกติระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเรื่องการท่องเที่ยวแต่อย่างใด