ทหารต้องจัดระเบียบชายแดน !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 อย่างน้อยในช่วงที่คนไทยที่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ที่รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมนักการเมืองกระจอกๆทั้งหลายรู้สึกหดหู่ ไร้ทางออก ฉับพลันก็ได้รับข่าวดีๆมาปลอบประโลมจิตใจเข้ามาบ้างอย่างน้อยก็เรื่องที่ สุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาของไทยในกรณีปราสาทพระวิหาร ล่าสุดได้ตัดสินใจถอนตัวจากภาคีมรดกโลกอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ไม่อาจโน้มน้าวให้คณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนวาระการพิจารณา “แผนบริหาร” จัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารออกไปตามคำร้องขอของไทย ซึ่งต้อง “ชมเชย” ในความกล้าหาญและเข้าใจในเกมของฝ่ายตรงข้ามได้ทันเวลา

00 ความหมายง่ายๆก็คือเพราะเราเล็งเห็นแล้วว่าถ้าไม่ชิงถอนตัวออกมาเสียก่อนเมื่อวาระการพิจารณาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาและมีการลงมติออกมาดูตามแนวโน้มแล้วเชื่อว่าไทยคงจะเสร็จ “เขมรฮุนเซ็น” แน่นอน และ “สิ่งเลวร้าย” ที่จะตามมาเป็นพรวน ทั้งในเรื่องของการ “เสียดินแดนถาวร” และต่อเนื่อง เอาเรื่องแรกก่อนก็คือพื้นที่โดยรอบพื้นที่ปราสาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่รอดพ้นจากการสูญเสียไปให้กับเขมร โดยการรับรองเป็นพยานของต่างชาติที่เป็นคณะกรรมการมรดกโลกดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นมหาอำนาจและมีผล “ประโยชน์ทับซ้อน” กันอยู่ เนื่องจากในแผนบริหารจัดการที่ฝ่ายเขมร “จงใจ” เสนอเข้าไปนั้นมัน “รุกล้ำ” เข้ามาในฝั่งไทยชัดเจน

00 นอกจากนี้หากแผนบริหารฯของเขมรผ่านการรับรองจากคณะกรรมการมรดกโลกแล้วยังมีผลต่อเนื่องไปถึงการตีความคำพิพากษาของศาลโลกที่ถูกร้องขึ้นไปให้ตีความว่ามีผลครอบคลุมถึงพื้นที่โดยรอบปราสาทหรือไม่อีกทางหนึ่งด้วย อย่างน้อยฝ่ายไทยก็แสดงให้เห็นว่าเรายืนกรานไม่ยอมถอยในเรื่องแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

00 การถอนตัวพ้นภาคีมรดกโลกครั้งนี้ยังเป็นการชี้ให้เห็นถึงพลังกดดันของภาคประชาชนที่ “ตื่นตัว” หวงแหนแผ่นดินมากกว่านักการเมือง “ห่วยแตก” ที่มีแต่เรื่องแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสอนใจอย่างดีว่าต่อไปชาวบ้านต้องคอยติดตามนักการเมืองอย่างใกล้ชิดชนิดที่เรียกว่า “กัดไม่ปล่อย” กรณีมรดกโลกก็เช่นเดียวกัน เป็นเพราะการชุมนุมยืดเยื้อไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค ทั้งที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกคุกคามต่างๆนานา จนกระทั่งได้รับผลออกมาดังกล่าว ที่สำคัญการชุมนุมของภาคประชาชนครั้งนี้ยังเป็นการ “ก้าวข้ามหัว” พวก “นักการเมืองกระจอก” ทั้งหลายว่ามันไม่สมควรได้รับการชายตาเหลียวมองอีกต่อไป และนี่แหละเป็นอีกคำตอบว่าทำไมถึงต้องปฏิรูปการเมืองกันครั้งใหญ่

00 ภารกิจหลังจากนี้เราก็ต้องหันมาจัดระเบียบตามแนวชายแดนกันใหม่ โดยเฉพาะต้องผลักดัน ต้องประท้วงให้ชุมชนกัมพูชา และทหารกัมพูชาถอนตัวออกไปจากพื้นที่ของเราทั้งในกรณีพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของกองทัพที่รับผิดชอบไล่ลงมาตั้งแต่ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร ที่ต้องหันมาเอาจริงเอาจังเสียที ขณะที่ “ทหารอ้วน” อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมนั้นอย่าไปสนใจ เพราะต่อไปคงไม่มีความหมาย และที่ผ่านมาคนๆนี้มักให้สัมภาษณ์สนับสนุนเขมรตลอด

00 ดังนั้นสิ่งที่ชาวบ้านเขาอยากเห็นก็คือทหารต้อง “ทำจริง” อย่าดีแต่ฮึ่ม ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ปัญหาลุกลามบานปลายมาถึงทุวันนี้เป็นเพราะทหารที่อยู่ในพื้นที่ รับรู้ปัญหาอยู่ทุกวัน ปล่อยปละละเลยให้เขารุกเข้ามาเรื่อยๆ แถมบางคนก็ดันไปมีผลประโยชน์ แต่ต่อไปนี้ต้องเริ่มต้นกันใหม่เอาจริงเอาจัง ขณะที่ภาคประชาชนจะ “ไม่ยอม” เป็นแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว !!