“มาร์ค” หาเสียงสุขุมวิท 103 ขอโอกาส ปชป.เป็นรัฐบาล พร้อมทำงานกับทุกกลุ่มทุกสีเพื่อสางปัญหาทุกอย่าง ด้าน “เจ๊ปู” หิ้ว “น้องไปป์” ไปตราด บ่นห่วงสับเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า วอน กกต.ช่วยดูแล ยอมรับแก๊งแดงช่วยเพื่อไทยดูแลการเลือกตั้ง ฉะถอนตัวจากภาคีมรดกโลก อ้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องหารือให้ละเอียดรอบคอบก่อน
บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งโค้งสุดท้าย วันนี้ (26 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด และในเขตจังหวัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เวลาช่วงเช้าลงพื้นที่หาเสียงช่วย นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 23 พระโขนง บริเวณตลาดมหาสิน ซอยสุขุมวิท 103
โดยนายอภิสิทธิ์ขึ้นรถแห่จากหน้าโรงแรมนิรันดร์แกรนด์ไปตามถนน และพบปะปราศรัยกับประชาชนที่มารรอให้กำลังใจบริเวณตลาด โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนพร้อมทำงานให้ทุกกลุ่มทุกสี บนความเสมอภาค ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการสะสาง หากให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าไปเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ มีประชาชนให้กำลังใจและมอบดอกไม้ให้นายอภิสิทธิ์เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายอภิสิทธิ์เดินพบปะประชาชนในตลาดได้มีแม่ค้าและประชาชนบางส่วนชูเบอร์ 1 แต่ไม่มีความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้น
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไป ปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดตราด พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันนี้ ยอมรับว่า มีความกังวลในเรื่องของการสับเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้ง และการขนย้ายหีบบัตร ซึ่งควรมีตัวแทนพรรคการเมืองของแต่ละพรรค ในการตรวจสอบและเชื่อว่าทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะช่วยในเรื่องของการดูแลบัตรเลือกตั้งด้วย มาตรการที่โปร่งใสไปจนถึงวันที่ 3 ก.ค. นี้
ส่วนการช่วยดูแลการเลือกตั้งล่วงหน้าของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็ถือเป็นการช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยในอีกทางหนึ่ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การประกาศนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่ได้สร้างความกังวลให้กับฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ชัดเจนแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาโดยมุ่งเน้นที่ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ไม่ใช่การช่วยเหลือใคร และตนอยากฝากไปยังพรรคการเมืองทุกพรรคว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะต้องมีการอธิบายให้ภาคเอกชน เข้าใจในแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน เพื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนการถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกของประเทศไทยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ซึ่งควรมีการหารือ และเจรจากับผู้ที่เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้อง ให้ละเอียดรอบคอบ โดยคำนึงถึงทรัพย์สมบัติ และจุดยืนของประเทศเป็นหลัก