บุรีรัมย์ - ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดที่บุรีรัมย์ แค่ร้อยละ 55.62 ขณะในเขตเลือกตั้งพุ่ง 90% ผู้สมัครเขต 4 ร้องขอให้เปลี่ยนสถานที่เก็บหีบบัตรในเขต หวั่นไม่โปร่งใส่ ด้านประธาน กกต.ยันหีบบัตรลงคะแนนทั้ง 9 เขต มี จนท.ดูแลและติดกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชม.
วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศหลังปิดหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในเขตเลือกตั้ง และนอกเขตจังหวัด ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า ได้มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้านอกเขตจังหวัด เพียงร้อยละ 55.62 จากจำนวนผู้มาลงทะเบียนขอใช้สิทธิทั้งหมด 3,650 คน ซึ่งน้อยกว่าความคาดหมาย เชื่อว่า ผู้ที่มาลงทะเบียนอาจมีภูมิลำเนาอยู่ห่างไกล ประกอบกับช่วงเช้าได้มีผู้มาเข้าคิวรอใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก บางส่วนจึงเดินทางกลับบ้านไปก่อนไม่รอลงคะแนน
สำหรับหีบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดทั้งหมด ทาง กกต.ได้ส่งมอบให้ไปรษณีย์ เพื่อนำไปคัดแยกส่งไปยังจังหวัดต่างๆ ตามภูมิลำเนาของผู้มาขอใช้สิทธิในเขตเลือกตั้งนั้นๆ
ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง ทั้ง 9 เขต จ.บุรีรัมย์ ได้มีผู้มาใช้สิทธิมากกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนผู้มาลงทะเบียนขอใช้สิทธิทั้งหมด 4,025 คน ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการ กกต.ทั้ง 9 เขต ได้นำหีบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ไปเก็บไว้ที่ที่ว่าการอำเภอ หรือสถานีตำรวจ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษา พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดจับภาพตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความโปร่งใสในการเก็บรักษาหีบบัตรดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ได้มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ได้ร้องขอให้ทาง กกต.มีการเปลี่ยนสถานที่เก็บหีบบัตรลงคะแนน จากที่ว่าการอำเภอไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจแทน เนื่องจากเกรงจะไม่โปร่งใส ซึ่งทาง กกต.ได้ชี้แจงว่า สถานที่เก็บรักษาหีบบัตรได้มีการประกาศแจ้งให้สถานที่ไปยัง กกต.กลาง พร้อมทั้งได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันได้ว่า มีความปลอดภัยและโปร่งใส ซึ่งทางผู้สมัครก็ไม่ติดใจ แต่ขอส่งทีมงานมาร่วมในการดูแลรักษาหีบบัตรด้วย
ด้าน นายสันทัด จัตุชัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำ จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในและนอกเขตเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และคาดว่า วันเลือกตั้งจริงในวันที่ 3 ก.ค.จะมีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ส่วนการดูแลหีบบัตรลงคะแนนล่วงหน้าทั้ง 9 เขต ยืนยันว่า มีความปลอดภัยและโปร่งใส เพราะมีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง และท้องถิ่น ผลัดเปลี่ยนกะละ 3 คน คอยเฝ้าดูแล พร้อมทั้งมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดจับภาพตลอด 24 ชั่วโมงด้วย