“ปลาไหล” ปัดถูก “แม้ว” ล็อบบี้ แบะท่าจองกฐิน “ศึกษา-พาณิชย์” จับขั้วจัดตั้ง รบ.

หน.ชทพ.นำคณะลงพื้นที่หาเสียงย่านท่าน้ำสาทร อมพระมาพูดปัด “แม้ว” ล็อบบี้ร่วมจัดตั้ง แบะท่ารอคุยหลังเลือกตั้ง เผยสันดานตั้งเงื่อนไขแบ่งเค้กล่วงหน้า จองกฐินกระทรวง “ศึกษาฯ-พาณิชย์”’ วัดใจพรรคใหญ่ เย้ย ปชป.งัดกลยุทธ์ใช้เวทีราชประสงค์จัดปราศรัยหวังใช้เป็นหมัดน็อกเพื่อไทยในช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียง

วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่เขตสาทร นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้ลงพื้นที่หาเสียงกรุงเทพมหานครในหลายจุดสำคัญตั้งแต่ช่วงเช้าถึงบ่ายตั้งแต่ตลาดคลองเตย ท่าน้ำสาทร โดยได้มีการขึ้นเรือหาเสียงกับประชาชนสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นได้ไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือวัดระฆังโฆสิตาราม พร้อมกันนี้ได้มีการสวดมนต์ขอพรจากกพระประธานภายในอุโบสถ และตีระฆังจำนวน 21 ครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลในการหาเสียง ซึ่งจุดสนใจอยู่ที่การปล่อยเต่าและหอยขมลงไปในแม่น้ำ เพราะนายชุมพลกล่าวระหว่างนั้นว่า ขอปล่อยหอยขมที่เปรียบเสมือนเป็นความขมขื่นของพรรคและของประเทศลงไปแม่น้ำออกไปสู่ทะเล ส่วนเต่าถือเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนจึงขอให้การปล่อยเต่าครั้งนี้เป็นการช่วยให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและความปรองดองยืนยาวตลอดไป

ทั้งนี้ นายชุมพลได้ปฏิเสธถึงกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนานยกรัฐมนตรี ล็อบบี้พรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กให้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า เวลานี้ขอยืนยันว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคการเมืองหรือจากบุคคลใดทั้งสิ้น เพราะเป็นระยะเวลาของการหาเสียงเลือกตั้ง โดยขอให้ทุกอย่างไปตัดสินใจกันหลังจากวันที่ 3 ก.ค.แทน ซึ่งถึงเวลานั้นเราก็จะรู้ว่าพรรคการเมืองใดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและจะรู้ว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะมีเสียงเท่าไหร

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคชาติไทยพัฒนาได้ปราศรัยหลายครั้งโดยย้ำว่าต้องการเข้าไปดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพาณิชย์ ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลของพรรคหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณอะไรทั้งสิ้น โดยการปราศรัยดังกล่าวมาจากการสอบถามจากชาวบ้านถึงการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร

“ส่วนตัวผมอยากได้กระทรวงศึกษาธิการ พาณิชย์ด้วยซ้ำ ถามว่าพรรคใหญ่ยอมแลกกับกระทรวงท่องเที่ยวไหม เรื่องนี้ยังไกลเกินไปต้องมาคุยกันหลังเลือกตั้ง แต่อยากให้หลายฝ่ายร่วมกันผลักดันแผนปรองดองของพรรคชาติไทยพัฒนาเพราะเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ประเทศชาติกลับสู่ความสงบได้รวดเร็วมากขึ้น” นายชุมพลกล่าว

นายชุมพลกล่าวถึงการปราศรัยที่ย่านราชประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ช่วงโค้งสุดท้ายของเลือกตั้งทุกพรรคต่างก็พยายามนำกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาเพื่อเรียกคะแนนเสียง โดยเฉพาะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ถือว่าเป็นรองก็ต้องพยายามเรียกคะแนนกลับคืนมา แต่เท่าที่ติดตามเนื้อหาการปราศรัยของประชาธิปัตย์ที่สื่อมวลชนนำเสนอนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นการลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แยกราชประสงค์ และเป็นข้อมูลเก่าไม่มีอะไรใหม่ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีอะไรหรือมีผลกระทบอะไรต่อแนวทางปรองดองของพรรค

นายชุมพลกล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่ไม่มีชื่อพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ในผลโพลล์ที่หลายสำนักทำ การสำรวจโดยจะเร่งเดินหาเสียงต่อไป ซึ่งในวันนี้พรรคจะหาเสียงในกรุงเทพมหานครเป็นวันสุดท้าย โดยตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปก็จะออกไปเดินสายหาเสียงในพื้นที่ต่าง จังหวัด โดยเฉพาะในภาคอีสานจะลงพื้นที่หาเสียงจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้งและจะปิดท้าย หาเสียงในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ด้วยการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดนครปฐม