xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ปัดทิ้งไพ่ใบสุดท้ายจ้อราชประสงค์ ลั่นไม่เหมือนที่อื่นแน่ ยังไม่คิดจับมือใครตั้งรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หัวหน้าประชาธิปัตย์ยันยังไม่ได้คิดเรื่องจับมือตั้งรัฐบาล หวังสูงได้ ส.ส.เกิน 250 ชี้พูดจับมือร่วม ภท.เหตุ พท.ประกาศไม่ร่วม “ห้อย” เอง ยันกระแสพรรคดีขึ้น เผยปราศรัยราชประสงค์ไม่เหมือนที่อื่น ปัดทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ถามใครจะสร้างความขัดแย้งเพิ่ม ซัดพวกป่วนตัวดี แย้มอาจเล่าเรื่องที่ไม่เคยพูดมาก่อน โยนเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์

วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้การต้อนรับคณะรัฐมนตรี และนายกเทศมนตรีของเมืองต่างๆ ในเอเชียและแปซิฟิก จำนวน 21 คน

นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการจับมือกับพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาลว่า มีสื่อถามว่าถ้าพรรคนั้นได้เสียงเท่านั้น พรรคนี้ได้เสียงเท่านี้จะมีกติกาในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร ซึ่งตนก็บอกไปว่าขณะนี้ตัวเลขก็ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เนื่องจากพรรคเพื่อไทยไปปฏิเสธที่จะไม่จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหากคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยเกินครึ่งขึ้นมา ถึงอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็จัดรัฐบาลไม่ได้ ตนก็พูดแค่นั้น ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการจับมือตั้งรัฐบาลเลย เพราะขณะนี้ยังเป็นช่วงที่แต่ละพรรคไปหาเสียง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในวันที่ 3 ก.ค. วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็เดินหน้าขอคะแนนเสียงจากประชาชน เราก็อยากให้ได้เกิน 250

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวที่ออกมาจะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าถูกดูถูกหรือไม่ ที่ไปจับมือกันก่อนโดยที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่มีการจับมืออะไรเลย แต่ทั้งหมดนี้ก็มาจากที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศเอง ซึ่งประชาชนก็ต้องคำนวณด้วย ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ และยังไม่มีการคุยอะไรเป็นพิเศษกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยบอกจะได้ถึง 300 กว่า ส่วนประชาธิปัตย์ ก็บอกจะได้ 200 กว่าซึ่งเกินจำนวน ส.ส.ในสภาแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ใช่ ซึ่งก็คงเป็นจริงไม่ได้ เมื่อถามว่าตัวเลขของพรรคเพื่อไทยที่ตั้งเป้าไว้ค่อนข้างตรงกับโพลล์ที่ออกมา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่เสมอไปหรอก

เมื่อถามว่า หลังจากลงพื้นที่ มีการประเมินตัวเลขของพรรคประชาธิปัตย์อย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก็คงมีเปลี่ยนแปลงบ้าง เพราะช่วงแรกต้องยอมรับว่ากระแสของเพื่อไทยพุ่งขึ้นมา แต่ช่วงหลังๆ บางพื้นที่โดยเฉพาะใน กทม.ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว โดยประชาธิปัตย์มีคะแนนดีขึ้นทั้งใน กทม.และในพื้นที่อื่น เช่น ภาคเหนือตอนล่าง อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ กทม.พรรคก็อยากได้ทั้งหมด แต่อยู่ที่ประชาชนจะให้แค่ไหน แต่หากเทียบกับสัดส่วนกับครั้งที่แล้วก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 25-26 ที่นั่ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการปราศรัยใหญ่ที่ราชประสงค์ในวันพรุ่งนี้ พรรคคาดหวังอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังเรื่องคะแนนเสียง แต่ตนคาดหวังเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าหนทางข้างหน้าที่เราจะเดินต่อไปนั้น เราควรจะเดินกันอย่างไร ซึ่งการที่จะรู้ว่าจะเดินอย่างไรก็ต้องเข้าใจเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อน รวมถึงความตั้งใจของแต่ละฝ่ายว่าจะนำพาบ้านเมืองไปอย่างไร

“พรุ่งนี้จะไม่เหมือนกับการปราศรัยครั้งอื่นๆ เราไม่ได้มาเน้นในเรื่องของการปราศรัยที่ทำกันทุกวัน วันละหลายรอบ แต่จะเป็นการมองทิศทางและอนาคตของประเทศผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และไม่ถือว่าเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้าย เพราะยังเหลือเวลาอีกกว่า 10 วัน” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนเป็นห่วงว่าแทนที่จะสร้างความเข้าใจ แต่อาจกลายเป็นการเพิ่มความขัดแย้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวย้อนว่า “ใครล่ะที่จะเพิ่มความขัดแย้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำอย่างนั้น แต่เรามีเจตนาที่จะนำเสนอให้ประชาชนมองเห็นว่าทิศทางประเทศควรจะเป็นอย่างไร แต่หากฝ่ายอื่นพยายามที่จะมาขัดขวางนั่นแหละคือคนที่กำลังตอกย้ำให้เห็นว่าใครที่เป็นฝ่ายพยายามสร้างความขัดแย้ง”

เมื่อถามว่า เป็นห่วงกันว่าการปราศรัยครั้งนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวแล้วทำให้ขยายความขัดแย้งไปอีก หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เราพูดในทางสร้างสรรค์ที่จะมองไปข้างหน้า และตนก็ไม่เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยจะมาบอกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้พูดเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ในเมื่อแกนนำเสื้อแดงพูดอยู่ทุกวันมาเป็นปี และแกนนำเสื้อแดงก็อยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยอันดับต้นๆ ทั้งนั้น ทำไมพอคนอื่นเอาความจริงมาพูด จึงไม่ยอมให้พูด แต่กลับใช้เงื่อนไขเรื่องนี้มาในลักษณะของการขัดขวางการเลือกตั้งของตนมาตลอด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความจริงที่จะนำมาพูดจะเป็นข้อมูลใหม่ที่ไม่ได้เปิดเผยที่ไหนมาก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความจริงก็คือความจริง แต่อาจจะมีบางเรื่องที่ไม่เคยได้เล่า หรือในแง่ที่ว่าเพื่อให้มองเห็นว่าประเด็นปัญหาข้างหน้าอยู่ตรงไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำ เมื่อถามว่าทิศทางที่จะบอกกับประชาชนในวันพรุ่งนี้คืออะไร จะนำประเทศให้หลุดพ้นจากความขัดแย้งได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็นี่แหละที่จะชวนมาฟังวันพรุ่งนี้ว่าการที่จะมองให้ทะลุว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าไปสู่ความสงบเรียบร้อยอย่างไร ต้องเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาก่อน และต้องการมีรัฐบาลที่มีความชัดเจนในเรื่องของความรับผิดชอบต่อส่วนรวมทั้งประชาชนและระบบของประเทศ

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายกฯ ก็พูดถึงเหตุการณ์ที่ราชประสงค์มาหลายครั้งแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังถือว่าพูดน้อย ตนเพิ่งมาเขียนในเฟซบุ๊ก มีหลายคนยังไม่ทราบสิ่งที่ตนเขียนในเฟซบุ๊กตั้งเยอะ ตนเพิ่งเขียนมา 1-2 สัปดาห์ และมีอีกหลายแง่มุมโดยเฉพาะที่มีการแสดงออกมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชัดเจนว่าเจตนาต่อไปคืออะไรก็ทำให้หลายอย่างยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อไปมองเหตุการณ์ในอดีต ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าประชาชนโดยทั่วไปจะเปิดใจรับฟังการปราศรัยของพรรคพรุ่งนี้เพราะมีประชาชนจำนวนมากสนใจที่จะรับฟัง หลายคนยังถามว่าถ้ามาไม่ได้จะมีโอกาสรับฟังได้อย่างไร ตนคิดว่าประชาชนก็ต้องการจะรู้เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของคนมา และความจริงสังคมก็รับรู้มาพอสมควรเพียงแต่ระยะหลังมีการพูดฝ่ายเดียวมากกว่าในการหยิบยกมาโจมตีรัฐบาล จึงทำให้เกิดการไขว่เขวไปบ้าง

เมื่อถามว่าจะระมัดระวังมือที่ 3 ที่อาจเข้ามาป่วนการปราศรัยอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลเต็มที่ คิดว่าทางตำรวจก็คงทราบและก็คงต้องดูแลให้เรียบร้อย

ผู้สื่อถามกรณีที่ น.ส.จิตรา คชเดช อดีตพนักงานบริษัทไทร์อัมพ์ ที่ออกมาตอบโต้นายกฯ โดยยกป้าย “ดีแต่พูด” นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบเลย




กำลังโหลดความคิดเห็น