“ชวน” หาเสียงศรีสะเกษ เชื่อปราศรัยใหญ่ราชประสงค์ไม่รุนแรง

ศรีสะเกษ - “ชวน หลีกภัย” ช่วยลูกพรรค ปชป.หาเสียงที่ศรีสะเกษ เชื่อเปิดปราศรัยใหญ่ที่สี่แยกราชประสงค์ไม่เกิดความรุนแรง แค่เปลี่ยนสถานที่ ชี้ความจริงคือความจริงพูดที่ไหนไม่เปลี่ยน ซัดกลุ่มก่อความรุนแรงเป็นพวกรับจ้างมา เผยหลังเลือกตั้งหากคะแนนเสียง ปชป.เพียงพอพร้อมร่วมกับพรรคอื่นตั้งรัฐบาล แฉจังหวัดภาคเหนือมีการใช้อิทธิพลข่มขู่ชาวบ้านให้เลือกบางพรรค

วันนี้ (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 07.45 น. ที่บริเวณตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยแกนนำผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค เช่น นายสุทัศน์ เงินหมื่น, นางจันทร์เพ็ญ ปริปุณณะชัย ลงพื้นที่ปราศรัยย่อยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนชาวศรีสะเกษที่เดินผ่านไปมาเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย เน้นปราศรัยชูนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงที่เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ซึ่งทำให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศได้รับประโยชน์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

จากนั้นนายชวนและคณะได้ขึ้นรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงขับตระเวนหาเสียงไปตามถนนสายหลักในตัวเมืองศรีสะเกษ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด

นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลำดับที่ 2 กล่าวว่า การที่มีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกับพรรคภูมิใจไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ตนมาหาเสียงช่วยลูกพรรคตามคำสั่งของพรรคเท่านั้น แต่ตนต้องการให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาทำงานเพื่อสานงานต่อไป เพราะนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น เรียนฟรี 15 ปี รักษาพยาบาลฟรี กองทุนกู้ยืมเรียน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เด็กได้ดื่มนม ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดทำมาก่อน เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น

นายชวนกล่าวต่อว่า ส่วนการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ วันที่ 23 มิ.ย.นี้นั้น ตนได้รับคำสั่งจากพรรคให้ไปร่วมปราศรัยด้วย ซึ่งเสร็จสิ้นการหาเสียงที่ จ.ศรีสะเกษแล้ว จะต้องเดินทางไปปราศรัยต่อที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งเชื่อว่าการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ข้างต้นจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากการปราศรัยที่ใดก็เหมือนกัน ความจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น พูดที่ไหนก็ไม่เปลี่ยน เปลี่ยนเพียงแค่สถานที่ปราศรัยเท่านั้น

ส่วนกลุ่มที่มาก่อความรุนแรงนั้นเป็นพวกที่รับจ้างมาเท่านั้น ทั้งการชูป้าย การก่อกวนพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตนเห็นว่าประชาธิปไตยก้าวหน้ามาได้ 70 ปีแล้ว ควรจะพัฒนาให้ดีขึ้น ไม่ควรใช้ความรุนแรงในการหาเสียง เช่น การกรีดป้ายพรรคประชาธิปัตย์ หรือทำลายป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองอื่น ที่พบเห็นอยู่ทั่วไป ทั้งนี้ เมื่อครั้งตนไปปราศรัยหาเสียงจังหวัดทางภาคเหนือเมื่อแจกแผ่นพับให้กับพี่น้องประชาชน บางคนก็ไม่ยอมรับ โดยแจ้งว่าขอจดเบอร์เอาไว้ในใจ หากรับแผ่นพับไปแล้วจะทำให้เกิดอันตราย กลัวโดยกลั่นแกล้ง ตนเห็นว่ายังมีการใช้อิทธิพลในการข่มขู่ชาวบ้านเพื่อให้เลือกพรรคบางพรรค

“หลังเลือกตั้งครั้งนี้ หากคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เพียงพอก็จะรวมกับพรรคอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบผลคะแนนที่แน่ชัด จึงยังไม่สามารถที่จะกำหนดอะไรขึ้นไว้ก่อนได้” นายชวนกล่าว