“เด็จพี่” ปฏิบัติภารกิจถนัด เดินสายยื่นศาลปกครองฟ้อง กกต.ขอไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองบัตรเลือกตั้ง อ้างเห็นโลโก้พรรคในบัตรเล็กเกิน หวั่นชาวบ้านเข้าใจผิด พร้อมขอให้พิพากษาเครื่องหมายพรรคเล็กกว่าชาวบ้านเลือกปฏิบัติ ให้กากากบาทบนช่องเครื่องหมายพรรคไม่ถือเป็นบัตรเสีย
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวัฒนา เตียงกูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางมายื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักงาน กกต. เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินและกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาในกรณีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่สัญลักษณ์ หรือโลโก้ของพรรคเพื่อไทยมีขนาดเล็กจนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเครื่องหมายอะไร และทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นช่องลงคะแนน ประกอบกับคำอธิบายได้กำหนดให้ทำเครื่องหมายกากบาทในช่องทำเครื่องหมายด้านขวามือของหมายเลขพรรคการเมือง ซึ่งการพิจารณาจากบัตรเลือกตั้งย่อมหมายถึงช่องเครื่องหมายพรรคการเมือง ว่าแม้ในบัตรเลือกตั้งจะมีช่องทำเครื่องหมายไว้ก็ตาม ความเข้าใจที่แตกต่างกัน หากไปกากบาทในช่องเครื่องหมายพรรคการเมือง อาจทำให้เกิดบัตรเสียทันทีตามระเบียบ กกต. ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพรรคได้ร้องเรียนต่อกกต.แล้ว ยังไม่มีความชัดเจนจึงร้องขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งชั่วคราวให้ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2554 ข้อ 107 (7) และตัวอย่างบัตรเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นระเบียบและตัวอย่างบัตรเลือกตั้งที่ไม่ถูกต้อง และมีคำสั่งให้ กกต.แก้ไขระเบียบและตังอย่างบัตรเลือกตั้งให้ถูกต้อง รวมทั้งขอให้มีคำพิพากษาว่าเครื่องหมาย พรรคเพื่อไทย ในบัตรเลือกตั้ง มีขนาดเล็กกว่าพรรคอื่นๆ เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยขอให้มีคำสั่งให้ กกต.แก้ไขบัตรเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อในช่องเครื่องหมายพรรคให้ถูกต้องเหมาะสม และขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้ กกต.นำระเบียบ กกต.ว่าด้วยการการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2554 ข้อ 147 (7) มาใช้กับกรณีบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่มีการทำเครื่องหมายลงคะแนนเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองในช่องเครื่องหมายพรรคการเมืองเพียงช่องเดียว โดยไม่ให้ถือว่าบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเป็นบัตรเสีย และให้นำไปนับเป็นคะแนนเลือกตั้งได้
ด้าน นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมองว่า จากที่ กกต.ได้มีการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งและระบุข้อความว่าให้กากบาทในช่องด้านหลังหมายเลขพรรคการเมืองนั้นขัดกับข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสบได้ เพราะพรรคเพื่อไทยได้ทำการสำรวจประชาชน 500 คน จำนวน 3 รอบ โดยนำบัตรเลือกตั้งตัวอย่างให้ประชาชนลองลงคะแนนกลับพบว่าประชาชนเกินกว่าครึ่งได้กากบาทลงคะแนนในช่องโลโก้พรรคการเมือง จึงเกรงว่าบัตรเลือกตั้งดังกล่าวจะเป็นบัตรเสีย และส่งผลต่อการเลือกตั้ง อีกทั้งยังขัดต่อเจตนารมณ์ของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งอีกด้วย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงมีมติยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด