“เจ๊ปู” สั่งฝ่าย กม.เกาะติดปราศรัย ปชป.พบพาดพิงเจอฟ้อง ปัด “ทักษิณ” ชักใยแดง

“ยิ่งลักษณ์” สั่งฝ่ายกฎหมายจับตาปราศรัยใหญ่ ปชป.ราชประสงค์ หากพาดพิงกระทบเพื่อไทยให้ฟ้องร้องดำเนินคดี วอนปราศรัยอย่างสร้างสรรค์ พร้อมปัด “นช.แม้ว” อยู่เบื้องหลังเสื้อแดง อ้างไม่มีใครสั่งประชาชนได้ ไม่สน ปชป.พร้อมจับมือ ภท.ตั้งรัฐบาล ยกหลักประชาธิปไตยพรรคไหนได้คะแนนมากสุดมีสิทธิตั้งรัฐบาล

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่แยกราชประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ต้องดูหลังการปราศรัย แต่ส่วนตัวขอย้ำอีกครั้งว่ายังอยากเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าชี้แจงนโยบายต่อประชาชนต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากคำปราศรัยพาดพิงและกระทบต่อพรรคพื่อไทยก็จะเป็นหน้าที่ของทีมกฎหมายในการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าทุกพรรคจะปราศรัยอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ คงไม่ถึงขั้นต้องส่งคนไปอัดเทปคำปราศรัย แต่จะติดตามจากข่าวสาร

น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์จัดการปราศรัยใหญ่ที่ราชประสงค์ในช่วงโค้งสุดท้าย ส่วนพลังเงียบ 10 ล้านคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใดนั้นคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่าจะเลือกพรรคใด ซึ่งหน้าที่ของตัวเองก็คือการลงพื้นทีีให้ครบ ซึ่งการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับประชาชน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่าไม่กังวลฝีปากของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยขึ้นปราศรัยจุดประเด็นกล่าวหา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ในขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังธรรมว่า พาคนไปตายช่วงเหตุการณ์ พฤษภาคม 2535 จนทำให้กระแสความนิยมของพรรคพลังธรรมลดลงทันที โดยเชื่อว่าประชาชนจะใช้วิจารณญาณในการตัดสินได้ด้วยตัวเอง พร้อมเชื่อมั่นว่านายชวนจะปราศรัยด้วยเจตนาดีต่อประเทศ

ส่วนที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่มีใครสามารถสั่งการประชาชนได้ ตนยังยืนยันว่าอยากเห็นประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงไม่อยากพูดเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งปัญหาตอนนี้คือการคิดที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

สำหรับโพลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำโพลรวมเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ แต่มีการจัดทำโพลในพื้นที่ เนื่องจากโพลรวมมีสำนักอื่นๆ ทำอยู่แล้ว และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่แตกต่างจากพรรคเพื่อไทยมากนัก อย่างไรก็ตาม โพลเป็นแค่ส่วนหนึ่ง สิ่งที่จะตัดสินได้คือผลการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ระบุจะรวมกับพรรคภูมิใจไทยเพื่อให้ได้เสียงข้างมากนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลว่า ตามระบอบประชาธิปไตยก็คือการฟังเสียงส่วนใหญ่ พรรคใดได้รับเสียงส่วนใหญ่ก็มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ลงพื้นที่ภาคอีสานช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขต หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง โดยในเช้าวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะปราศรัย ที่ อ.หนองกรุงศรี อ.ยางตลาด อ.เมือง และ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธ์ ช่วงบ่าย จะทำการปราศรัย ที่ อ.บ้านไผ่ อ.พล จ.ข่อนแก่น อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา และ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ก่อนที่ จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนแฮร์โล่ของลูกชายในเช้าวันพรุ่งนี้ และในช่วงบ่ายจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาปราศรัยที่ จ.ชัยภูมิ