xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” โต้ปาหี่จับสายลับเขมร ขอเค้นใช้เป็นหลักฐานในเวทีโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ
นายกฯ โต้เขมรป้ายสีไทยกุข่าวจับสายลับเขมร ยันกงสุลกัมพูชาประสานมาเองเท่ากับยอมรับว่าเป็นพลเรือนเขาจริง เชื่อมีประโยชน์ต่อรูปคดี ขอเวลาเค้นเพื่อใช้เป็นหลักฐานหักล้างในเวทีโลก

วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่พุทธมณฑลสาย 5 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กัมพูชาออกแถลงการณ์หาว่าไทยสร้างเรื่องสายลับ ซึ่งจะมีการชี้แจงต่อนานาชาติอย่างไรนั้น ขณะนี้เรารอการสอบสวนอีกนิด เสร็จแล้วก็จะให้ทางกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไป คงไม่มีการสร้างเรื่องอยู่แล้ว เพราะตอนที่ถูกจับ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็รายงานว่าเจ้าหน้าที่กัมพูชาก็พยายามที่จะมาประสานงาน ถ้าเป็นการสร้างเรื่องก็คงไม่มาวิ่งไล่ตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่ากัมพูชาที่ประสานมาเป็นระดับไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ระดับกงสุล ถามย้ำว่า เขาประสานมาเองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เท่าที่นายสุวิทย์เล่าให้ฟังก็เป็นอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกเลย ต่อข้อถามว่าเขาประสานมาเท่ากับเขายอมรับ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใช่ เพราะเขาดำเนินการเหมือนกับขอความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ไทยเตรียมจะดำเนินคดีคนเหล่านี้ ท่าทีของกัมพูชาเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่เขาออกแถลงการณ์มา เราจะให้ทางกระทรวงการต่างประเทศพิจารณา โดยอาศัยจากความคืบหน้าในการสอบสวนเพิ่มเติมด้วย จะได้มีหลักฐานต่างๆ หนักแน่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่ากับว่าตอนนี้กัมพูชากำลังโกหกนานาชาติอยู่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เดี๋ยวเราก็สามารถที่จะบอกได้ เพราะคิดว่าเรามีข้อมูลที่พร้อม และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราใช้ประโยชน์ได้หลายๆ เวที เมื่อถามว่าถ้าเขาตัดตอนบอกว่าไม่ใช่คนของกัมพูชา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะให้ข้อเท็จจริงไป เพราะเราควบคุมตัวอยู่และสอบสวนอยู่ เมื่อถามว่าข้อเท็จจริงชัดเจนเลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรามีการดำเนินการ มีเบาะแสมา มีการจับกุมและยึดเอกสารต่างๆ

กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ 4 ข้อตอบโต้แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาที่กล่าวหาไทยสร้างหลักฐานปลอม ใส่ร้ายกัมพูชาเรื่องสายลับจารกรรมข้อมูล ดังนี้

1. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะไม่ดำเนินการใดๆหากไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
2. ประเทศไทยมีขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมที่ชัดเจน เริ่มจากการหาหลักฐานโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำเสนอเรื่องต่ออัยการ จากนั้นอัยการก็จะเสนอเรื่องต่อศาล ซึ่งศาลไทยเป็นองค์กรที่มีเกียรติ มีชื่อเสียงเป็นมืออาชีพ และได้รับการยอมรับตลอดมาว่าฝ่ายการเมืองไม่สามารถแทรกแซงได้
3. เมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว จำเลยสามารถตั้งทนายสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมในสังคมเปิดโดยทั่วไป ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาและเวียดนามสามารถส่งเจ้าหน้าที่กงสุลเข้าพบปะผู้ต้องหาได้ตามแนวทางสากล
4. การดำเนินการทุกอย่างของไทยเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและโปร่งใส ไม่เคยมีการตั้งข้อหาใดๆกับคนต่างชาติโดยการสร้างหลักฐานเท็จ และไทยมีความจริงใจในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศต่างๆโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านเสมอมา
กำลังโหลดความคิดเห็น