ผอ.เลือกตั้งภูมิใจไทย เผย พรรคสั่งผู้สมัคร ส.ส.ขยันลงพื้นที่ เน้นปราศรัยย่อย แจงประชานิยมที่แตกต่าง เล็งเปิดนโยบายช่วยคนรายได้น้อย ชี้ กระแสมีขึ้นมีลง
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่พรรคภูมิใจไทย นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้สมัคร วานนี้ (6.มิ.ย.) ทางพรรคได้กำชับให้ผู้สมัครทุกคนขยันทำพื้นที่เข้าหาประชาชนให้มากขึ้น และเน้นปราศรัยย่อยอธิบายนโยบายต่างๆ ให้ประชาชนเข้าใจ เพราะวันนี้ นโยบายทุกพรรคคล้ายคลึงกันมาก ทางพรรคจึงให้ผู้สมัครไปชี้แจงในรายละเอียด ว่า ประชานิยมของพรรคมีความแตกต่าง เช่น การช่วยเหลือเกษตรกร เราพูดถึงการประกันราคาข้าว ว่า มันดีอย่างไร และกองทุนประกันราคาสินค้าเกษตร ข้าวเปลือกตันละ 20,000 บาท พรรคทำได้ และจะผลักดันให้เป็นโครงสร้างระยะยาว เมื่อทำได้เกษตรกรเดินได้ในอนาคต เพราะพรรคไม่เห็นด้วยกับการจำนำราคาข้าว และ การใช้บัตรเครดิตเกษตรกร มันเป็นสร้างภาระหนี้สิน ทั้งนี้ทางพรรคเตรียมที่จะเปิดนโยบายสำคัญอีก 1 นโยบาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาของเศรษฐกิจในฐานของคนมีรายได้น้อย ในเร็วๆ นี้
นายสรยุทธ กล่าวต่อว่า แม้ กทม.พรรคส่งผู้สมัครเพียงคนเดียว คือ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เขต 11 กทม.ทางพรรคมั่นใจ เพราะ นางสาวศุภมาส เป็น ส.ส.ในพื้นที่ดูแลประชาชนในพื้นที่มานาน เข้าใจประชาชนในพื้นที่ แต่พรรคการเมืองอื่นไม่เคยคำนึงเรื่องนี้ โดยเลือกคนมีชื่อเสียง ฐานะทางสังคมสูง โดยไม่คำนึงถึงประชาชน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ โดยวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย.นางพรทิวา นาคาศัย เลาธิการพรรค จะลงพื้นที่ช่วย นางสาวศุภมาส หาเสียง และอธิบายเรื่องปากท้องประชาชน นโยบายการจ้างงาน ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม 2% การสร้างอาชีพ การสร้างที่ทำกิน และในวันอาทิตย์ 12 มิ.ย.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค พร้อมผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ จะลงพื้นที่หาเสียงในเขตหลักสี่ ทั้งนี้ ขณะนี้ทางคณะทำงานอยู่ในขั้นตอน การวางแผนการหาเสียงใน กทม.โดยจะเน้นการลงพื้นที่ย่านธุรกิจ พื้นที่ ของคนรุ่นใหม่ เราจะแบ่งทีมลงพื้นที่ และผลักดันคนรุ่นใหม่ในพรรคให้ทำงานการเมือง อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ทางพรรคก็เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชน
เมื่อถามว่า ผ่านมาครึ่งทางในการเลือกตั้งดูเหมือนกระแสของภูมิใจไทย ยังไม่ขึ้น นายสรยุทธ กล่าวว่า กระแสคือกระแส มันมาเป็นช่วง มีขึ้นมีลง เราจะชัดเจนในเรื่องของนโยบาย ถึงจุดหนึ่งประชาชนจะใช้สติ 1 เสียง ที่เขาจะลงคะแนนเขาต้องคิด ว่าใครจะทำประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้นอย่าไปคิดมากเรื่องกระแส ทางพรรคก็ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ประมาท พรรคก็ได้เตือนผู้สมัครไปแล้วว่าต้องขยันกว่าเดิม
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่พรรคภูมิใจไทย นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้สมัคร วานนี้ (6.มิ.ย.) ทางพรรคได้กำชับให้ผู้สมัครทุกคนขยันทำพื้นที่เข้าหาประชาชนให้มากขึ้น และเน้นปราศรัยย่อยอธิบายนโยบายต่างๆ ให้ประชาชนเข้าใจ เพราะวันนี้ นโยบายทุกพรรคคล้ายคลึงกันมาก ทางพรรคจึงให้ผู้สมัครไปชี้แจงในรายละเอียด ว่า ประชานิยมของพรรคมีความแตกต่าง เช่น การช่วยเหลือเกษตรกร เราพูดถึงการประกันราคาข้าว ว่า มันดีอย่างไร และกองทุนประกันราคาสินค้าเกษตร ข้าวเปลือกตันละ 20,000 บาท พรรคทำได้ และจะผลักดันให้เป็นโครงสร้างระยะยาว เมื่อทำได้เกษตรกรเดินได้ในอนาคต เพราะพรรคไม่เห็นด้วยกับการจำนำราคาข้าว และ การใช้บัตรเครดิตเกษตรกร มันเป็นสร้างภาระหนี้สิน ทั้งนี้ทางพรรคเตรียมที่จะเปิดนโยบายสำคัญอีก 1 นโยบาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาของเศรษฐกิจในฐานของคนมีรายได้น้อย ในเร็วๆ นี้
นายสรยุทธ กล่าวต่อว่า แม้ กทม.พรรคส่งผู้สมัครเพียงคนเดียว คือ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เขต 11 กทม.ทางพรรคมั่นใจ เพราะ นางสาวศุภมาส เป็น ส.ส.ในพื้นที่ดูแลประชาชนในพื้นที่มานาน เข้าใจประชาชนในพื้นที่ แต่พรรคการเมืองอื่นไม่เคยคำนึงเรื่องนี้ โดยเลือกคนมีชื่อเสียง ฐานะทางสังคมสูง โดยไม่คำนึงถึงประชาชน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ โดยวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย.นางพรทิวา นาคาศัย เลาธิการพรรค จะลงพื้นที่ช่วย นางสาวศุภมาส หาเสียง และอธิบายเรื่องปากท้องประชาชน นโยบายการจ้างงาน ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม 2% การสร้างอาชีพ การสร้างที่ทำกิน และในวันอาทิตย์ 12 มิ.ย.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค พร้อมผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ จะลงพื้นที่หาเสียงในเขตหลักสี่ ทั้งนี้ ขณะนี้ทางคณะทำงานอยู่ในขั้นตอน การวางแผนการหาเสียงใน กทม.โดยจะเน้นการลงพื้นที่ย่านธุรกิจ พื้นที่ ของคนรุ่นใหม่ เราจะแบ่งทีมลงพื้นที่ และผลักดันคนรุ่นใหม่ในพรรคให้ทำงานการเมือง อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ทางพรรคก็เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชน
เมื่อถามว่า ผ่านมาครึ่งทางในการเลือกตั้งดูเหมือนกระแสของภูมิใจไทย ยังไม่ขึ้น นายสรยุทธ กล่าวว่า กระแสคือกระแส มันมาเป็นช่วง มีขึ้นมีลง เราจะชัดเจนในเรื่องของนโยบาย ถึงจุดหนึ่งประชาชนจะใช้สติ 1 เสียง ที่เขาจะลงคะแนนเขาต้องคิด ว่าใครจะทำประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้นอย่าไปคิดมากเรื่องกระแส ทางพรรคก็ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ประมาท พรรคก็ได้เตือนผู้สมัครไปแล้วว่าต้องขยันกว่าเดิม