xs
xsm
sm
md
lg

โฆษกรัฐบาลกล้าพูด คำสั่งศาลโลกจะช่วยยุติขัดแย้งไทย-เขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปณิธาน วัฒนายากร (แฟ้มภาพ)
โฆษกรัฐบาล ระบุ ประชุมเจบีซีอยู่ที่เขมร ไทยพร้อมทุกเมื่อ เผย “สุวิทย์” เตรียมนัดเขมรถกนอกรอบให้ระงับแผนบริหารปราสาทพระวิหารก่อนประชุมยูเนสโก มั่นใจคำสั่งศาลโลกช่วยยุติความขัดแย้ง 2 ประเทศ ด้าน กองทัพ บอกจุดยืนยังเหมือนเดิมไม่ยอมให้กำลังต่างชาติเข้าพื้นที่พิพาท ชี้ เป็นเรื่องของอธิปไตยเหนือดินแดน ต้องวางกำลังไว้ในพื้นที่

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่ได้หารือความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา โดยรัฐบาลยืนยันความพร้อมจัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) แต่ขึ้นอยู่กับกัมพูชาพร้อมกับรอความชัดเจนเรื่องการส่งเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ลงพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานว่า จะนัดหารือทวิภาคีกับทางกัมพูชาก่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก 1 วัน หรือวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เพื่อทำความตกลงร่วมกันกับกัมพูชาไม่ให้ยื่นแผนบริหารจัดการบริเวณปราสาทพระวิหารที่กระทบต่ออธิปไตยของไทยต่อที่ประชุม ระหว่างวันที่ 19-29 มิ.ย.นี้ และเชื่อว่า องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก จะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อยุติปัญหาดังกล่าวของ 2 ชาติ

นายปณิธาน กล่าวอีกว่า ปลายเดือนนี้ทางศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลกจะพิจารณารับหรือไม่รับคุ้มครองชั่วคราวกรณีกัมพูชายื่นคำขอให้ศาลโลกพิจารณาตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร 2505 นั้น เชื่อว่า ผลที่ออกมาจะมีแนวโน้มที่ดี ที่กระบวนการศาลโลกอาจจะช่วยยุติปัญหาความขัดแย้งทั้งสองชาติลงได้ ที่จะไม่กระทบต่อการถอนกำลังทหารหรือข้อพิพาทการปักปันเขตแดน พร้อมกับน่าจะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงในภุมิภาคนี้ให้เกิดขึ้นด้วย เพราะแม้แต่ 1 ใน 15 ตุลากรประเทศบราซิลร้องขอข้อมูลการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ด้าน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมข้อมูลไปชี้แจงกับศาลโลกเกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทางกระทรวงต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ ตนมีหน้าที่รักษาอธิปไตยเหนือดินแดน และเตรียมกำลัง

ส่วนที่ก่อนหน้านี้กองทัพออกมาระบุว่าจะไม่รับกองกำลังต่างชาติให้เข้ามาในพื้นที่ แต่ทางกัมพูชายังยืนยันในจุดนี้รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศกำลังเดินหน้า ดำเนินการในเรื่องนี้ ส่วนของกองทัพยังยืนยันในจุดเดิมหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ตนยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว รวมทั้งยืนยันด้วยวาจาในที่ประชุมสภากลาโหม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรได้ส่งไปยังกระทรวงต่างประเทศด้วยหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่สรุปนำเรียนให้ รมว.กลาโหม ทราบเท่านั้น ซึ่งไม่มีหน้าที่ที่จะทำนอกเหนือจากนั้น ตนมีขั้นตอนบทบาทรับผิดชอบอยู่แล้ว

ส่วนที่ทางกัมพูชาต้องการให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่ทับซ้อนนั้น พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า เป็นเรื่องอธิปไตยเหนือดินแดน เราคงต้องวางกำลังไว้อย่างนี้ ส่วนการเจรจาเป็นเรื่องของผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในระดับนโยบาย เราคงยังยึดมั่นอยู่เช่นนี้ เมื่อถามว่า หากศาลโลกตัดสินคุ้มครองตามที่กัมพูชาร้องขอโดยให้เราถอนกำลังทหารออก จุดยืนของกองทัพเป็นอย่างไร พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ตนทำตามนโยบายของรัฐบาล กองทัพไม่ได้มีอำนาจในการบริหารประเทศ กระทรวงที่เกี่ยวข้องในเรื่องของความมั่นคงจะมีการหารือกันและกำหนดแนวทาง ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบของรัฐบาล ในส่วนของกองทัพเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงกลาโหม มีภาระหน้าที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติของกระทรวงกลาโหมอย่างชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น