xs
xsm
sm
md
lg

“ไก่อู” โต้ “สุธาชัย” ยันพูดผังล้มเจ้าตามหน้าที่ แย้มดีเอสไอขยายผลกว่า 20 คดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (แฟ้มภาพ)
โฆษก ทบ.โต้ “สุธาชัย” แฉผังล้มเจ้า ศอฉ.แค่ความเชื่อ ซัดบิดเบือน ยัน ศอฉ.มีข้อมูลเชื่อพวกล้มเจ้ามีจริง จึงออกแผนผัง อ้างมีหน้าที่ชี้แจงไม่เกี่ยวรวมหลักฐาน จึงยืนยันความผิดไม่ได้ เผย ดีเอสไอขยายผลแล้วกว่า 20 คดี รับส่อเกี่ยวพวกล่าชื่อแก้ ม.112

วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงว่า จากกรณีที่ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยการโฆษณาแถลงข่าว และแจกแผนผังโครงการข่ายขบวนการล้มล้างสถาบันเบื้องสูง เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ ศอฉ.ซึ่งศาลได้นัดไกล่เกลี่ยคดีไปเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา จนไปสู่การถอนฟ้องในที่สุด แต่จากนั้นประมาณ 2 เดือน นายสุธาชัย กลับออกมาเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยอ้างว่า ผังโครงข่ายของ ศอฉ.เป็นเพียงความเชื่อ และไม่ได้มีข้อมูล พยานหลักฐานใดๆ รวมถึงโฆษก ทบ.ให้การยอมรับในชั้นศาล ว่า บุคคลที่มีรายชื่อตามผังโครงข่ายมิใช่ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในการล้มเจ้า ซึ่งถือว่า เป็นการสร้างกระแสให้ประชาชนสับสน และก่อให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือในฐานะโฆษก ทบ.จากข้อเท็จจริงบางประการที่ถูกบิดเบือน

“ขอชี้แจงว่า ขณะนั้น ศอฉ.มีหน่วยงานความมั่นคงหลายหน่วยงานร่วมกันรวบรวมข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับบุคคลที่ดำเนินการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายรูปแบบ อาทิ การปราศรัยบนเวทีชุมนุม การโพสต์ข้อความ หรือบทความในอินเทอร์เน็ต การรวมตัวกันจัดทำสิ่งพิมพ์ อาทิ ไทยเรดนิวส์ วอยส์ออฟทักษิณ รวมถึงวิทยุชุมชน จนมีข้อมูลเชื่อมั่นได้ว่า มีขบวนการที่จ้องจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่จริง ที่ประชุม ศอฉ.จึงมีมติให้นำผังโครงข่ายออกแจกจ่ายให้สาธารณชนรับทราบถึงความสัมพันธ์ ความเกี่ยวข้องในลักษณะต่างๆ ซึ่งต่อมานายสุเทพ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการคดีพิเศษให้มีการสืบสวนตามกฎหมาย โดยกรณีนี้โฆษก ทบ.ได้ชี้แจงต่อศาลยืนยันไปแล้วว่า ศอฉ.และกองทัพ เชื่อมั่นว่า มีขบวนการจ้องจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่จริง หาได้เป็นไปตามที่นายสุธาชัย กล่าวอ้างบิดเบือนแต่อย่างใด” โฆษก ทบ.กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า โฆษก ศอฉ.มีหน้าที่เพียงชี้แจงทำความเข้าใจให้สาธารณชนรับทราบข้อมูล ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐาน จึงมิได้อยู่ในสถานภาพที่จะรับรู้ว่า ผู้ที่มีรายชื่อในโครงข่ายมีน้ำหนักของข้อมูลหรือพยานหลักฐาน ว่า ผิดหรือไม่ผิดอยู่ในระดับใด อีกทั้งการสีบสวนสอบสวนของคดียังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้น โฆษก ทบ.ในฐานะอดีตโฆษก ศอฉ.จึงไม่สามารถเบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันความผิด หรือความบริสุทธิ์ของบุคคลเหล่านี้ได้ โดยหน้าที่แสวงหาหลักฐานเป็นของหน่วยงานที่มีอำนาจในการสอบสวนเช่น ตำรวจ ดีเอสไอ โดยเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางดีเอสไอได้เชิญทีมงานโฆษก ทบ.ไปพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ทราบว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้นำเรื่องที่ ศอฉ.ร้องทุกข์กล่าวโทษพร้อมด้วยผังโครงข่ายไปสืบสวนขยายผลจนพบพฤติการณ์และการกระทำของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิดตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญาในหลายมิติอย่างเป็นระบบ ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมากจำนวน 20 คดี มีหมายจับ 8 คดี มีการจับได้และมอบตัว 4 คดี ส่วนที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องล่าชื่อให้แก้ไข ม.112 จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น คงต้องดูที่ข้อมูล แต่ส่วนตัวคิดว่าเกี่ยวข้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น