xs
xsm
sm
md
lg

ชทพ.จัด 2 ทัพหาเสียง เล็งถาม กกต.บัตรเลือกตั้ง 2 แบบไม่เหมือนกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (แฟ้มภาพ)
ชาติไทยพัฒนาแบ่งทีมหาเสียง 2 ชุด ให้ “ชุมพล” ดูภาคกลาง ส่ง “สนั่น- ประดิษฐ์” ดูเหนืออีสาน คาดแบบเขตถึงเป้า 30-35 เสียง หวั่นปั้นคะแนนนิยมพรรคกว่า 2.5 ล้าน ยันสัญญาใจ ภท.เหมือนเดิม เล็งถาม กกต. บัตรเลือกตั้ง 2 ระบบแตกต่างกัน

วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงถึงผลการประชุมคณะที่ปรึกษาและคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ที่ประชุมมีความเห็นว่าแนวทางการหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนานับจากนี้เป็นต้นไปจะแบ่งทีมหาเสียงออกเป็นสองชุด ได้แก่ ชุดแรกนำโดยนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง ภาคอีสาน ส่วนชุดที่สองนำโดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รับผิดชอบดูแลภาคเหนือและมาเสริมในบางจังหวัดของภาคอีสาน โดยจะมีบางครั้งที่ลงพื้นที่หาเสียงร่วมกันทั้งสองทีม

นายวัชระกล่าวว่า สำหรับการประเมินตัวส.ส.ที่คาดว่าจะได้ในระบบเขตตอนนี้มั่นใจจะเดินไปถึงเป้าจำนวน 30-35 เสียงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง หลังจากการผลการสำรวจของพรรคโดยไม่มีความหวั่นไหวจากปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ทางการเมืองแน่นอน ทั้งนี้แนวทางของพรรคจะเน้นการหาคะแนนเสียงในส่วนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อมาก ขึ้นโดยทางพรรคได้มอบหมายทีมงานเพื่อแนวทางการเรียกคะแนนความนิยมให้ถึง 2.5 ล้านคะแนนให้ได้

นายวัชระกล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย โดยมีความเห็นตรงกันว่าข่าวที่ปรากฏขึ้นเป็นเพียงกระแสข่าวเพราะสถานการณ์จริงยังไม่มีอะไร และประเมินว่าข่าวที่เกิดขึ้นมาจากการคาดการณ์ของคนในแวดวงทางการเมืงว่าทั้งสองพรรคจะได้ส.ส.รวมกัน 100 ที่นั่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีเสน่ห์สำหรับพรรคการเมืองใหญ่จึงไม่แปลกหากพรรคการเมืองใหญ่จะดึงพรรคชาติไทยพัฒนาไปร่วมรัฐบาล

“ผู้ใหญ่ของพรรคยืนยันว่าสัญญายังเป็นสัญญาและการจะตัดสินใจทางการเมืองอะไรก็ตาม พรรคชาติไทยพัฒนาจะหารือกับพรรคภูมิใจไทยแน่นอนไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น โดยการพูดคุยทั้งหมดจะเริ่มหลังจากการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.” นายวัชระ กล่าว

โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนาเปิดเผยอีกว่า พรรคจะทำหนังสือสอบถามขอคำชี้แจงจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีจัดพิมพ์บัตรลงคะแนนเลือกตั้งทั้ง ส.ส.ระบบเขตและบัญชีรายชื่อมีความแตกต่างกัน โดยพรรคตั้งข้อสังเกตทำไมบัตรเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อมีสองแถวรวมกัน 40 พรรคการเมือง ส่วนระบบเขตนั้นมี 4 แถว แถวละ 15 พรรค รวมเป็น 60 พรรค ซึ่งพรรคไม่เข้าใจทำไมต้องมีรูปแบบแตกต่างกันเพราะจะสร้างความสับสนให้กับประชาชนในการลงคะแนนเสียง ในกรณีพรรคอยากเสนอถ้าเป็นไปได้ควรอยากให้บัตรเลือกตั้งเป็นรูปแบบเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น